ค่าเสียหายเบื้องต้น!กฏเหล็กจ่ายทันทีใน 7 วันถ้าประสบภัยจากรถ

ค่าเสียหายเบื้องต้น!กฏเหล็กจ่ายทันทีใน 7 วันถ้าประสบภัยจากรถ
ค่าเสียหายเบื้องต้น!กฏเหล็กจ่ายทันทีใน 7 วันถ้าประสบภัยจากรถ

ค่าเสียหายเบื้องต้น!กฏเหล็กจ่ายทันทีใน 7 วันถ้าประสบภัยจากรถ


    นับตั้งแต่มีการประกาศบังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เมื่อปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ประชาชนที่ประสบภัยจากรถยนต์จะได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะกฏหมายฉบับนี้ได้บังคับให้รถยนต์ทุกคันที่ต้องจดทะเบียนตามกฏหมาย ต้องมีประกันภัยคุ้มครองหรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่าประกันพ.ร.บ.


    อีกทั้งกฏหมายฉบับนี้ยังกำหนดไว้ว่า ค่าสินไหมทดแทนที่จะต้องจ่ายให้กับผู้ประสบภัยจากรถนั้น ต้องมีการจ่าย "ค่าเสียหายเบื้องต้น”ภายใน 7 วัน (นับแต่วันที่บริษัทได้รับการร้องขอ) โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความรับผิด ทั้งนี้เพื่อที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทของผู้ประสบภัยสามารถนำค่าเสียหายเบื้องต้นในไปบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้น


โดยในปัจจุบันกฏหมายกำหนดจำนวนค่าเสียหายเบื้องต้นที่ต้องจ่ายให้กับผู้ประสบภัยดังนี้


1 กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย บริษัทจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้ประสบภัย ตามจำนวนที่จ่ายไปจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อหนึ่งคน
2 กรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อชีวิต บริษัทจะจ่ายค่าปลงศพ และค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพของผู้ประสบภัย ตามจำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน
3 กรณีที่ผู้ประสบภัยได้มีการรักษาตัวและได้เสียชีวิตจากเหตุเดียวกันในภายหลัง บริษัทต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนนี้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 65,000 บาทต่อหนึ่งคน


    อย่างไรก็ตามนิยามคำว่า”ผู้ประสบภัยจากรถ” นั้น ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ว่า การจะเป็นผู้ประสบภัย จะต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัยจากภัยที่รถก่อให้เกิดขึ้น แต่เนื่องจากรถก่อให้เกิดภัยเองไม่ได้ รถที่จะก่อให้เกิดภัยได้ต้องมีบุคคลนำรถมาใช้และระหว่างการใช้รถนั้นมีการก่อให้เกิดภัยจากรถ และภัยนั้นทำให้บุคคลได้รับความเสียหายต่อชีวิตร่างกายและอนามัย


    ทั้งนี้ในคู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ได้กำหนดหลักในการพิจารณาดังนี้
1 มีบุคคลหนึ่งเจตนานำรถมาใช้และได้เข้าใช้รถนั้น เช่น ผู้ขับขี่
2 ระหว่างการใช้รถนั้นมีการก่อให้เกิดภัยจากรถขึ้น ซึ่งภัยจากรถนั้นอาจจะเกิดขึ้นจากผู้นำรถมาใช้ หรือผู้โดยสารหรือจากบุคคลภายนอกรถก็ได้  คำว่า ระหว่างการใช้รถ นั้นมิได้มีความหมายเพียงว่า ขณะนั้นรถติดเครื่องอยู่หรือรถกำลังวิ่งอยู่เท่านั้น แม้รถจะไม่ได้ติดเครื่องหรือกำลังวิ่งอยู่ก็ตาม หากช่วงเวลานั้นมีการกระทำหรือกิจกรรมใดที่เป็นการใช้รถหรือเกี่ยวเนื้องกับการใช้รถก็ถือว่าเป้นเวลาระหว่างการใช้รถ
3  ภัยจากรถนั้นทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ผู้ได้รับความเสียหายจะเป็นผู้นำใช้เองหรือผู้โดยสารหรือบุคคลภายนอกรถก่อนได้

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ