อยากเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปี ทำได้หรือไม่ ?

อยากเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปี ทำได้หรือไม่ ?
อยากเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปี ทำได้หรือไม่ ?

อย่างที่ทราบกันดีว่าประกันรถยนต์มีระยะเวลาคุ้มครองเป็นรายปี เมื่อครบปีถึงจะสามารถต่ออายุประกันหรือทำประกันรถยนต์ใหม่ได้ แต่ก็มีหลายคนที่ต้องการเปลี่ยนประกันรถยนต์กะทันหันทั้งที่ประกันรถยนต์เดิมยังไม่หมดอายุ  ซึ่งการเปลี่ยนประกันรถนี้เองที่อาจทำให้คุณต้องหนักใจ เพราะมีเงื่อนไขต่างๆ มากมายที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ วันนี้เราจะมาพูดถึงการเปลี่ยนประกันรถยนต์ ทั้งๆ ที่ประกันรถยนต์เดิมยังไม่หมดอายุ โดยเฉพาะหากต้องการเปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปีนั้นสามารถทำได้หรือไม่ และมีข้อดีอะไรบ้าง

เปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนครบปี ได้หรือไม่

เหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนประกันรถก่อนครบกำหนด

อย่างที่ทราบกันว่าการเปลี่ยนประกันรถยนต์ ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนประกันรถหลังจากครบ 1 ปี แต่หากต้องการเปลี่ยนประกันรถก่อนครบกำหนดก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมักจะมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ อย่างการเปลี่ยนชั้นประกัน และเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้คนเลือกที่จะเปลี่ยนประกันรถก่อนครบกำหนด ดังนี้
1. ไม่พอใจกับบริการของบริษัทประกันที่ทำอยู่
การบริการของบริษัทประกันภัย เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้เลือกทำประกันทุกคนตัดสินใจที่จะทำประกันรถยนต์หรือต่อประกันรถยนต์กับบริษัทนั้นๆ ถึงแม้ในช่วงแรกจะไม่สามารถรู้ได้ว่าบริการของประกันรถยนต์ที่เราเลือกนั้นดีหรือไม่ดี จนกว่าจะเกิดเหตุที่ต้องใช้บริการของบริษัทประกัน ซึ่งในจุดนี้เองหากเจอการบริการที่แย่ ชวนหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาจากบริษัทประกันรถยนต์ที่ทำอยู่ อาจทำให้ผู้ที่เอาประกันมองหาบริษัทประกันรถยนต์ใหม่ เพื่อทำการเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปีนั่นเอง 
2. เบี้ยประกันแพง
ของแพงไม่ใช่ว่าจะคุ้มค่าเสมอไป โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่หลายคนยอมจ่ายเบี้ยประกันราคาแพง เพื่อต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่พอเกิดอุบัติเหตุขึ้นประกันรถที่ทำอยู่ดันไม่คุ้มครองตามที่คิด ด้วยเหตุนี้เองจึงอาจทำให้หลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนประกันรถก่อนที่ประกันรถยนต์เดิมจะครบปี   
3. เปลี่ยนรถ
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนรถคันใหม่หรือขายรถคันเดิม คุณสามารถที่จะเวนคืนกรมธรรม์เพื่อขอรับเงินคืนจากบริษัทประกันได้ หรือจะโอนชื่อผู้เอาประกันให้กับเจ้าของรถคันใหม่ที่ซื้อต่อจากคุณไปก็ได้เช่นกัน เพื่อให้ความคุ้มครองประกันรถยนต์เดิม คุ้มครองเจ้าของรถคนใหม่ไปเลยจนหมดปี

การเปลี่ยนประกันรถก่อนหมดปี ทำได้หรือไม่

สำหรับการเปลี่ยนประกันรถก่อนครบกำหนดนั้นสามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถที่ต้องการจะเปลี่ยนประกันรถใหม่หรือเปลี่ยนชั้นประกันรถหรือไม่ โดยจะเป็นก่อนหรือหลังการทำประกันรถยนต์ก็ได้ เพียงแต่ถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนประกันรถยนต์หลังจากทำประกันไปแล้ว อาจต้องมีการจัดส่งเอกสารเพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์และรับเงินคืน ซึ่งอาจจะไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวนจากบริษัทประกัน

ข้อดีของการเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์ก่อนครบปี

ข้อดีของการเปลี่ยนประกันรถ ก่อนครบปี

1. ได้เบี้ยประกันที่ถูก
เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ประเด็นใหญ่ที่ทำให้คนเลือกเปลี่ยนประกันรถก่อนจะครบกำหนด แต่สำหรับบางคนเบี้ยประกันอาจเป็นเรื่องหลักที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถก่อนที่จะครบปีเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากเปลี่ยนประกันรถยนต์แล้วได้เบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ได้ความคุ้มครองเทียบเท่ากับราคาที่จ่ายก่อนหน้าที่จะเปลี่ยน ก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว แต่หากเปลี่ยนประกันรถยนต์แล้วได้เบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่ของเรา ก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะอาจเป็นการเพิ่มภาระความเสี่ยงแทน
2. ได้ประกันรถยนต์ที่ถูกใจ
แน่นอนว่าการเปลี่ยนประกันรถยนต์ก่อนหมดปีนั้น มาจากสาเหตุที่ว่าประกันรถยนต์ที่ทำอยู่นั้นไม่ตอบโจทย์กับการใช้รถของตัวเราเองและเหตุผลอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น การเปลี่ยนประกันรถก่อนหมดปีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจะทำให้คุณได้รับประกันรถยนต์ที่ถูกใจและตอบโจทย์คุณจริงๆ นั่นเอง
3. ได้โปรโมชันสุดคุ้ม
เป็นอีกหนึ่งจุดที่บริษัทประกันแข่งกันสุดๆ เพื่อให้ได้ฐานลูกค้าใหม่เข้ามาทำประกันรถยนต์กับบริษัท สำหรับโปรโมชันของประกันรถยนต์ และในจุดนี้เองอาจทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบโปรโมชันของบริษัทประกันต่างๆ เพื่อหาโปรโมชันที่ถูกใจและตอบโจทย์จริงๆ กับลักษณะการขับขี่ของตัวเอง นอกจากนี้ยังอาจได้รับของแถมจากโปรโมชัน

ข้อเสียของการเปลี่ยนประกันรถ ก่อนครบปี

1. เสียความคุ้มครอง
แน่นอนว่าหากคุณยกเลิกกรมธรรม์จากบริษัทประกัน การคุ้มครองรถยนต์ที่ขับอยู่ก็เป็นอันยกเลิกเช่นกัน ซึ่งหากกรมธรรม์ฉบับใหม่คุ้มครองไม่ต่อเนื่องจากฉบับเดิม กรณีเกิดอุบัติเหตุ คุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง
2. เสียใจในอนาคต
การที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถยนต์เจ้าใหม่ นั่นหมายถึงคุณต้องรับความเสี่ยงจากบริการของบริษัทประกันรถยนต์เจ้าใหม่นั่นเอง ซึ่งกว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุให้ต้องทำการเคลมประกันรถกับบริษัทประกัน ถึงจะรู้ว่าประกันรถที่เลือกนั้นตอบโจทย์กับความต้องการของคุณหรือไม่
3. เสียเวลาเปลี่ยนประกัน
ถึงแม้การเปลี่ยนประกันรถในปัจจุบันนี้จะสามารถติดต่อผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้แล้วก็ตาม แต่ก็ยังทำให้คุณเสียเวลาได้เช่นกัน เพราะต้องทำเรื่องยื่นเอกสาร และรอเวลาดำเนินการจากทั้งบริษัทประกันเก่าและเจ้าใหม่ อีกทั้งเจ้าของรถจะต้องตามเรื่องเองอีกด้วย
4. เสียค่าอากรแสตมป์
เพราะการยกเลิกกรมธรรม์จากบริษัทประกันรถยนต์จะได้รับเงินคืน แต่ก็ไม่ใช่ว่าการดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์นั้นจะได้รับเงินเต็มจำนวน ซึ่งทางบริษัทประกันจะคืนเงินให้กับคุณตามสัดส่วนโดยจะหักเบี้ยจากที่ทางบริษัทประกันให้ความคุ้มครองไปแล้วบางส่วน  และในส่วนที่ทางตัวผู้เอาประกันจะไม่ได้รับคืนจากบริษัทประกัน นั่นคือ ค่าอากรแสตมป์นั่นเอง

เอกสารและขั้นตอนในการเปลี่ยนประกันรถ

การเปลี่ยนประกันรถนั้นจำเป็นต้องใช้เอกสารในการดำเนินการใหม่ทั้งหมด นั่นก็คือ สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ สำเนาเล่มทะเบียนรถ หากเป็นประกันชั้น 1 อาจต้องใช้รูปถ่ายรถหรือเอกสารการตรวจสภาพรถจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันด้วย 
บริษัทประกันเดิม 
โดยการเซ็นลงบนสำเนาบัตรประชาชนของบริษัทประกันเดิมนั้น ต้องระบุไปว่า ต้องการขอยกเลิกกรมธรรม์หมายเลข… โดยให้สิ้นสุดความคุ้มครองตามวันที่ที่ระบุไว้ รวมไปถึงต้องคืนกรมธรรม์ต้นฉบับ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน รวมไปถึงสำเนาสมุดบัญชีธนาคารเพื่อให้บริษัทประกันทำเรื่องคืนเงินให้อีกด้วย 
บริษัทประกันใหม่
สำหรับการเปลี่ยนประกันรถบริษัทเจ้าใหม่ให้ระบุลงไปว่า ต้องการให้ความคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่วันที่เท่าไร รวมไปถึงการส่งเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาเล่มทะเบียน ถ้าเป็นการทำประกันชั้น 1 ต้องส่งรูปถ่ายรถหรือเอกสารการตรวจสภาพรถจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันด้วย เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วล่ะครับ

หลังจากที่ส่งเอกสารดังกล่าวไปยังบริษัทประกันทั้งเจ้าเก่าและเจ้าใหม่ เพื่อขอทำการเปลี่ยนประกันรถ คุณก็จะได้รับความคุ้มครองเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ระบุเอาไว้ โดยที่ไม่ต้องรอให้ทางบริษัทประกันเดิมยกเลิกกรมธรรม์ เพราะอาจต้องใช้ระยะเวลานาน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันแต่ละที่ว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการยกเลิกคืนเงินให้ภายในกี่วัน 

สุดท้ายนี้การเปลี่ยนประกันรถจะตอบโจทย์หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าของรถแล้วล่ะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณนำไปประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะทำการเปลี่ยนประกันรถกันนะครับ 

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์นประเภท 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการ หรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว ลองเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ viriyah.com หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0-2129-7474  

อ่านบทความอื่นๆ