“หลับใน” ตอนขับรถ ภาวะร้าย ที่ควรรู้เท่าทัน!

“หลับใน” ตอนขับรถ ภาวะร้าย ที่ควรรู้เท่าทัน!
“หลับใน” ตอนขับรถ ภาวะร้าย ที่ควรรู้เท่าทัน!

รู้หรือไม่ว่าภาวะหลับในเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากเป็นอับดับที่ 3 โดยปี 2564 ที่ผ่านมาอุบัติเหตุจากการหลับในเกิดขึ้นจำนวน 1,052 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 131 ครั้ง อัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้นถึง 14.22% เลยทีเดียว

ภาวะหลับใน (Microsleep) คือ อาการหลับในระยะเวลาสั้นๆ ที่แทรกเข้ามาในขณะที่ตื่นอยู่แบบเฉียบพลันโดยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ โดยสาเหตุหลักๆ มักจะเกิดจากการที่ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอนเป็นเวลานานๆ หรืออีกหนึ่งสาเหตุก็คือผลข้างเคียงจากการรับประทานยารักษาโรค เป็นต้น

โดยคนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามสองปัญหานี้ และมักจะไปพึ่งพาเครื่องดื่มคาเฟอีนมากกว่าการพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากในคาเฟอีนมีสารที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปรู้สึกตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่ามากกว่าปกติ และยิ่งเป็นผู้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนเป็นเวลานานๆ หรือต้องขับรถคนเดียว วิธีนี้จึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

หลับในเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ของอุบัติเหตุบนท้องถนน ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลต่างๆ ที่หลายครอบครัวพากันออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ทำให้การสัญจรบนถนนคับคั่งกว่าปกติ การเคลื่อนตัวของรถทำได้ช้าลง จึงส่งผลให้ผู้ขับขี่มักเกิดอาการง่วงนอน ไม่สดชื่น จนลามไปสู่การหลับในได้ และยิ่งต้องเดินทางในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนหรือช่วงบ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีอาการง่วงนอนได้ง่ายมากที่สุดแล้วนั้น ภาวะหลับในจนเกิดอุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมากเช่นกัน 
 

วิธีป้องกันอาการหลับในจากการขับขี่ สามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้
1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง 2-3 วัน อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง 

2.เข้านอนให้เป็นเวลา และไม่ควรเกินเวลาเที่ยงคืน 

3.งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลัง 4 โมงเย็นเป็นต้นไป เพื่อป้องกันการนอนไม่หลับในช่วงกลางคืน

4.ก่อนเดินทางควรทานอาหารให้พอดี ต้องไม่อิ่มจนเกินไป เพราะจะทำให้ง่วงตอนขับรถได้

5.งดทานยารักษาโรคที่ก่อให้เกิดอาการง่วง ซึม หรือเบลอ 

6.วางแผนการเดินทางให้พร้อม หาจุดพักรถหากเกิดอาการง่วงนอน เพื่อป้องกันอาการหลับใน
 

ดังนั้นภาวะหลับในไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลยอีกต่อไป เพราะจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขั้นร้ายแรงได้ การพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลร่างกายให้พร้อมก่อนเดินทางอยู่เสมอ สามารถป้องกันภาวะหลับในจากการขับขี่ได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากผู้ขับขี่พักผ่อนเพียงพอแล้วแต่ยังรู้สึกง่วงขณะขับรถอยู่ การจอดพักรถจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ หรือเข้าพบแพทย์เพื่อทำการทดสอบ Sleep Test เพื่อวินิจฉัยอาการง่วงนอนอย่างละเอียดในขั้นต่อไป

 

             ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

 

 

อ่านบทความอื่นๆ