เชื่อว่าผู้ขับขี่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ แม้จะระมัดระวังกันเป็นอย่างดี และหนึ่งในเรื่องของอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นแบบเหนือความคาดหมายมักจะเป็นเรื่องของการ “โดนชนแล้วหนี” ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวรถและหนีไปทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนหรือรายละเอียดของคู่กรณีได้ แล้วแบบนี้ ประกันภัยรถยนต์ จะคุ้มครองหรือไม่ ? วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ถ้าโดนชนแล้วหนีจะต้องทำอย่างไร ประกันภัยรถยนต์และบริษัทประกันของเราจะให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือยังไงบ้าง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้กันครับ

เมื่อโดนชนแล้วหนีต้องทำอย่างไร ? 
1.ตั้งสติและจำทะเบียนของคู่กรณีให้ได้
เมื่อรถของเราถูกเฉี่ยวหรือชน พยายามตั้งสติให้ดีและลงมาดูสภาพร่องรอยจุดที่โดนชน ว่าความเสียหายของรถมีมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าหากพบคู่กรณีกำลังจะขับหนี สิ่งที่ควรทำคือจดจำทะเบียนรถของคู่กรณีหรือรายละเอียดต่าง ๆ ของคู่กรณีให้มากที่สุด ทั้งยี่ห้อรถ สีรถ ลักษณะของรถ เพราะจะมีส่วนช่วยให้คุณติดตามได้ในภายหลัง ยิ่งถ้าในรถของคุณมีกล้องติดรถอยู่ด้วยจะเป็นหลักฐานช่วยให้คุณระบุคู่กรณีได้รวดเร็วมากขึ้น

2.โทรแจ้งเคลมประกันรถ เพื่อรับความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
หลังเกิดเหตุควรรีบโทรแจ้งไปยังบริษัทประกันภัยที่คุณทำเอาไว้ แล้วบริษัทประกันภัยจะสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อออกใบเคลมให้กับคุณ ถ้าหากคุณสามารถจดจำทะเบียนของคู่กรณีได้ ทางบริษัทประกันจะตามหาคู่กรณีให้ แต่ถ้าหากจำรายละเอียดไม่ได้ แนะนำว่าให้ตรวจสอบกับกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง และประสานกับหน่วยงานที่ดูแลกล้องบริเวณนั้น เพื่อขอนำหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจและยืนยันกับบริษัทประกันภัย

3.แจ้งความกับตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เพราะบริษัทประกันต้องการหลักฐานที่ระบุว่าเกิดเหตุการณ์ชนแล้วหนีที่บริเวณไหนและสามารถยืนยันได้ว่าเป็นข้อมูลจริง คุณจึงจำเป็นต้องแจ้งความกับตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอเคลมประกันรถกับบริษัทประกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับบริษัทประกันของคุณในการติดตามหาคู่กรณีต่อไป

4.สำรวจความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ที่คุณทำ

→ ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 
สำหรับใครที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สบายใจได้เลยครับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์โดนรถชนแล้วหนีจะได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นอน เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองการชนทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม คุณสามารถนำรถเข้าไปเคลมประกันรถได้เลย
→ ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ 
หากเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น หากโดนชนแล้วหนีแต่จำทะเบียนรถได้ หรือมีกล้องติดรถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ขณะถูกชนแล้วหนี ผู้เอาประกันสามารถเคลมประกันรถกับทางบริษัทประกันภัยได้ แต่ถ้าหากจำรายละเอียดของคู่กรณีไม่ได้ก็ไม่สามารถส่งเคลมประกันรถได้ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+  ที่จะคุ้มครองรถของผู้เอาประกันในกรณีรถชนรถและมีคู่กรณีนั่นเองครับ
→ ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
เช่นเดียวกันกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ที่จะให้ความคุ้มครองในกรณีรถชนรถเท่านั้นสำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ หากมีหลักฐานและระบุตัวตนของคู่กรณีที่ชนแล้วหนีได้ จะสามารถส่งเคลมประกันรถได้ แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานหรือรายละเอียดของคู่กรณี ผู้เอาประกันสามารถขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อมายืนยันข้อมูลกับบริษัทประกันหรือแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานในการยื่นเคลมประกันรถได้เช่นกันครับ
→ ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 กับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
สำหรับกรณีที่รถของคุณทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จะไม่ได้รับการคุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุชนแล้วหนี ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งหากถูกชนแล้วหนีทางผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดเองครับ

อุบัติเหตุถูกชนแล้วหนี คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรือพบเจอกันใช่ไหมล่ะครับ แต่หากต้องพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ หวังว่าสิ่งที่เรานำมาฝากจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์นี้ได้ดีขึ้น และไม่เสียผลประโยชน์ของตัวเองกันนะครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์นประเภท 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการ หรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว ลองเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ viriyah.com หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 0-2129-7474