คันเร่งค้างทำไงดี?! ทำตามนี้ รอดชัวร์

คันเร่งค้างทำไงดี?! ทำตามนี้ รอดชัวร์
คันเร่งค้างทำไงดี?! ทำตามนี้ รอดชัวร์

เคยเป็นกันไหม? คันเร่งค้างทีไร สติหายควบคุมไม่ได้ทุกที งั้นลองทำตาม 4 วิธี นี้ รับรองว่าไม่เกิดอุบัติเหตุแน่นอน

     ปัญหาคันเร่งค้างส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเกิดขึ้นเองมากเท่าไหร่ แต่จะเป็นการเกิดโดยที่มีอะไรบางอย่างมาทำให้คันเร่งค้าง เช่น ผู้ขับเหยียบเบรกตลอดเวลาขณะลงเขาจนเบรกร้อนจัด หรือเกิดจากสิ่งของภายในรถมาขัดไว้จึงก่อให้เกิดอาการคันเร่งค้าง และเมื่อเกิดสภาวะนี้ขึ้นหลายคนก็จะสติหลุด ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะควบคุมอย่างไรดี อาจร้ายแรงจนถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุจากคันเร่งค้าง วิริยะประกันภัยจึงนำ 4 วิธีเอาตัวรอดให้ปลอดภัย...เมื่อเจอคันเร่งค้าง? มาฝาก จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกัน

 

     ปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการ “คันเร่งค้าง”
     1. เหยียบคันเร่งแทนเบรก เมื่อเกิดอาการตกใจแบบกระทันหันจากการขับรถ
     2. กรณีคนขับเป็นผู้หญิง แล้วใส่รองเท้าส้นสูง อาจทำให้ส้นรองเท้าไปขัดกับคันเร่งได้
     3. ปัญหาคันเร่งจมหรือค้าง ทำให้แป้นเบรกแข็งจนไม่สามารถใช้เบรก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของระบบตัวรถ เพื่อป้องกันการเหยียบเบรกพร้อมคันเร่ง
     4. เบรกจมหรือเบรกแตก ทำให้ไม่สามารถห้ามล้อได้
     5. เบรกแข็งเกินไปเนื่องจากหม้อเบรกมีปัญหา
     6. ขวดน้ำหรือสิ่งของที่อยู่ในรถไปขัดไว้
     7. พรมปูรถเคลื่อนเข้าไปติดที่ซอกคันเร่ง


     4 วิธีเอาตัวรอดให้ปลอดภัย...เมื่อเจอคันเร่งค้าง
     1. เมื่อประสบปัญหาคันเร่งค้างควรตั้งสติให้ดีไม่โวยวาย สิ่งแรกที่ควรปฏิบัติคือเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ D มายังเกียร์ N แล้วค่อยเหยียบเบรกลงไปแรงๆ จากนั้นประคองรถเข้าข้างทางพร้อมดับเครื่อง

     2. ในขณะที่ดับเครื่องยนต์แล้ว ไม่ควรดึงกุญแจออกจากรถโดยทันทีเด็ดขาด เพราะถ้าหากดึงกุญแจออกทันทีจะทำให้สลักล็อคพวงมาลัยทำงาน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวรถได้เมื่อต้องการ

     3. แต่ในกรณีที่ไม่สามารถเบรกรถได้ทัน ควรประคองรถไปยังจุดที่มีความแข็งแรงมากที่สุดเพื่อทำการหยุดรถ โดยเลือกใช้ฝั่งที่ไม่มีคนนั่งเข้าชน

     4. ข้อสำคัญของการเอาตัวรอดจากปัญหาคันเร่งค้าง คือ ห้ามดึงเบรกมือเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถหมุนและเสียการควบคุมจนลามไปถึงการเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำได้ทันที

     สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ปัญหาคันเร่งค้างไม่ลามไปถึงการเกิดอุบัติเหตุได้คือ “สติ”  เพราะถ้าหากผู้ขับมีสติมากพอเมื่อเกิดปัญหาแล้วปฏิบัติตามวิธีแก้ไขที่เรานำมาฝากนี้ได้อย่างทันท่วงทีและไม่หลุดโฟกัส จะทำให้ผู้ขับนั้นรอดปลอดภัยจากอาการคันเร่งค้างได้

เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ