รู้หรือไม่? หากผู้เช่ารถทำรถหาย ประกันภัยจะคุ้มครองหรือไม่

รู้หรือไม่? หากผู้เช่ารถทำรถหาย ประกันภัยจะคุ้มครองหรือไม่
รู้หรือไม่? หากผู้เช่ารถทำรถหาย ประกันภัยจะคุ้มครองหรือไม่

ธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวหรือให้บริการขนส่ง กำลังเป็น ”รายได้พิเศษ” ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ และหมายรวมไปถึงการชักชวนให้มาร่วมลงทุนธุรกิจนี้กันมากขึ้น  เพราะต่างเชื่อมั่นว่าเป็นการลงทุนที่ ”ไม่มีความเสี่ยง” เพราะเพียงแค่จัดซื้อหรือผ่อนรถยนต์แล้วนำไป”ร่วมวิ่งให้บริการ” ในรูปแบบของการทำสัญญาเช่า ซึ่งจะทำให้เจ้าของรถยนต์ในฐานะผู้ให้เช่ารถ ไม่ต้องมีส่วนร่วมในความรับผิดที่เกิดจากการให้บริการแต่อย่างใด รวมไปถึงไม่ต้องเป็น”จำเลยร่วม”ในกรณีที่บริษัทนำรถไปใช้ในการกระทำผิดกฏหมายบ้านเมือง

อีกทั้งความเสี่ยงที่มีอยู่และสำคัญที่สุด”รถยนต์สูญหาย”ทุกคนต่างก็เชื่อว่า ไม่มีปัญหาถ้าได้ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 หรือประเภท 2  เพราะอยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย

นับเป็นความเชื่อที่ถูกต้องแต่ไม่ครบถ้วน  เพราะถ้าผู้เอาประกันภัยได้อ่านเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 หรือ 2 ซึ่งมีเงื่อนไขให้ความคุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ และเป็นเอกสารที่ทุกบริษัทประกันภัยได้ส่งมอบมาพร้อมกับกรมธรรม์ประกันภัย  ผู้เอาประกันภัยจะรู้แจ้งว่า มีเงื่อนไขอยู่หลายข้อที่ถือเป็นข้อยกเว้นไม่ได้รับความคุ้มครอง

สำหรับความเสียหายหรือสูญหายของรถยนต์ที่ผู้เอาประกันภัยได้นำไปร่วมทำธุรกิจรถเช่าเพื่อการท่องเที่ยวหรือให้บริการขนส่ง  การนำไปใช้ในลักษณะอย่างนี้  ถ้ารถยนต์เกิดสูญหายขึ้นมา คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์  ซึ่งถือเป็นประกาศนายทะเบียนและมีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย ได้ตีความในข้อยกเว้นไว้ว่า

“ข้อ 5 การยกเว้นรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองความสูญหายหรือไฟไหม้อันเกิดจาก

5.1 ความเสียหายหรือสูญหายอันเกิดจากการลักทรัพย์ หรือยักยอกทรัพย์ โดยบุคคลได้รับมอบหมายหรือครอบครองตามสัญญาเช่า สัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจำนำ หรือโดยบุคคลที่จะกระทำสัญญาดังกล่าวข้างต้น”

อธิบายได้ว่า ถ้าไปร่วมทุนด้วยการนำรถยนต์ของตนเองไปร่วมวิ่งบริการ ซึ่งแน่นอนย่อมมีสัญญาเช่าชัดเจน ต่อมาภายหลัง เจ้าของกิจการรถเช่าหรือแม้แต่หุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทได้ยักยอกหรือเป็นผู้ลักรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยไป ก็ไม่สามารถไปเรียกร้องขอใช้สิทธิ์รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยไว้ เพราะเข้าข่ายข้อยกเว้นที่ระบุไว้

แต่ถ้าผู้ลักหรือยักยอกทรัพย์นั้นเป็น”พนักงานขับรถหรือลูกจ้างของบริษัท”ที่ผู้เอาประกันภัยไปร่วมทุนด้วย  กรณีอย่างนี้ถือว่าเป็นการลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์โดยลูกจ้าง ซึ่งมีการคำนวณเบี้ยประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงไว้แล้ว บริษัทประกันภัยต้องให้ความคุ้มครอง

และเช่นเดียวกันถ้าผู้เช่า ผู้เช่าซื้อ ผู้รับจำนำ ได้นำรถยนต์ไปใช้และในระหว่างการนำรถยนต์ไปใช้รถยนต์เกิดการสูญหาย ซึ่งเป็นการสูญหายจากการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์จากบุคคลอื่น บริษัทประกันภัยก็ไม่สามารถปฎิเสธความคุ้มครองได้

อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์”แชร์รถตู้”ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา  กรณีอย่างนี้ถ้ากระบวนการยุติธรรมได้พบเอกสารหลักฐานที่บ่งบอกชัดเจนว่า ผู้ลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์ได้ใช้กลอุบาย ทำทีไปทำสัญญาเช่า เช่าซื้อหรือจำนำ และใช้เอกสารเท็จในการทำสัญญา ซึ่งเป็นการแสดงเจตนามาตั้งแต่ต้นว่าต้องการยักยอกหรือลักทรัพย์ มิได้มีเจตนาเพื่อนำไปใช้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา  คู่มือตีความฯชี้ชัดว่า” เป็นการลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย”  ไม่เข้าข่ายข้อยกเว้น 5.1 ดังกล่าว บริษัทจึงไม่อาจปฎิเสธความคุ้มครองได้

นอกจากกรณีสูญหายแล้ว ในคู่มือตีความฯยังได้ระบุข้อความ”ความเสียหาย”อีกด้วย  ความเสียหายที่ว่านี้หมายถึง กรณีรถยนต์ที่สูญหายไปและตามกลับคืนมาได้ แต่อยู่ในสภาพที่มีความเสียหาย ถ้ารถยนต์คันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 เอาไว้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยต้องให้ความคุ้มครอง

รับกรมธรรม์ประกันภัย ต้องอ่านคู่มือเงื่อนไขความคุ้มครอง!

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ