แชร์พิกัด 7 ที่เที่ยวชมทะเลหมอกที่ต้องไป! ตื่นตากับวิวหลักล้าน ฉลองปีใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ

แชร์พิกัด 7 ที่เที่ยวชมทะเลหมอกที่ต้องไป! ตื่นตากับวิวหลักล้าน ฉลองปีใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ
แชร์พิกัด 7 ที่เที่ยวชมทะเลหมอกที่ต้องไป! ตื่นตากับวิวหลักล้าน ฉลองปีใหม่ใกล้ชิดธรรมชาติ

 

      ใกล้ปีใหม่แบบนี้ หลายคนคงเริ่มวางแผนเที่ยวกับครอบครัว คนรักหรือก๊วนเพื่อนกันบ้างแล้ว ยิ่งอากาศเย็นสบายแบบนี้ยิ่งไม่ควรพลาด แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีที่เที่ยวในใจ ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้เรามี 7 พิกัด ที่เที่ยวชมทะเลหมอก ให้ได้ขับรถออกไปชิลล์ สัมผัสอากาศเย็นท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ที่พร้อมให้คุณได้ตื่นมาสูดอากาศดีๆ ให้เต็มปอดต้อนรับปีใหม่ จะมีที่ไหนบ้าง มาดูกัน

 

7 พิกัดที่เที่ยวชมทะเลหมอก ให้ไปฉลองปีใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ

 

1.กิ่วแม่ปาน เชียงใหม่

พิกัดแรกของจุดเช็กอินที่เที่ยวชมทะเลหมอกคือ กิ่วแม่ปาน เรียกว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในฤดูหนาวที่หลายคนตั้งใจจะไปให้ได้สักครั้ง! ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และยังเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นที่มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง ให้ได้เดินขึ้นไปชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ทะเลหมอกที่สวยงามและพระอาทิตย์ขึ้น 

 

ตลอดเส้นทางจะเป็นป่าดิบที่มีบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยเฟิร์นและมอสสีเขียวขึ้นปกคลุมตามโคนต้นไม้ บริเวณริมห้วยและยังมีดอกไม้รูปร่างแปลกตา รวมถึง ‘เหมยขาบ’ หรือแม่คะนิ้งให้ได้ชมระหว่างทาง ถ้าโชคดีอาจมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าด้วย นอกจากจุดชมวิวทะเลหมอกแล้ว กิ่วแม่ปานยังมีไฮไลท์อย่าง ‘ผาแง่มน้อย’ หินแกรนิตแท่งใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณริมทางเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กับ ‘ต้นกุหลาบพันปีแดง’ ให้ได้ชมกันอีกด้วย 

 

**หมายเหตุ : การเดินทางไปเที่ยวกิ่วแม่ปาน สามารถจองตั๋วและซื้อบัตรผ่านอุทยานฯ แบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ได้แล้ว


 

2.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า จังหวัดระยอง

เขาแหลมหญ้า เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเล มีจุดกางเต็นท์และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดเป็นสถานีเอาไว้ให้ได้เดินเที่ยวเช็กอินด้วยกันถึง 9 จุด นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกบริเวณสัณฐานของ ‘แหลมหญ้า’ ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาและน้ำสีครามของทะเลได้ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวจะมีทะเลหมอกเกิดขึ้นให้ได้ชมอีกด้วย

 

3.เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

สำหรับใครที่ปีใหม่นี้ยังไม่มีแพลนไปไหน เราอยากจะชวนทุกคนมาเที่ยวชมทะเลหมอก นอนกางเต็นท์ ดูดาว ที่เขาพะเนินทุ่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงามให้คุณได้ดื่มด่ำกับวิวสุดอลังการ ชมทะเลหมอกตอนเช้าตรู่และนั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นต้อนรับปีใหม่ บอกเลยว่าเป็นที่เที่ยวชมทะเลหมอกที่คุ้มค่ากับการเดินทางอย่างแน่นอน

 

4.เขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา

ปีใหม่นี้ใครวางแผนไปฉลองส่งท้ายปีกันที่ ‘โคราช’ นี่คืออีกหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกของจังหวัดนครราชสีมาที่ต้องมา! เพราะนอกจากอากาศเย็นสบาย ปลอดโปร่ง ดีต่อปอดแล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้จุดชมวิวในจังหวัดอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กังหันลมยักษ์ หรือวิวของเขื่อนลำตะคอง ให้ได้เก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ใครเป็นสายปั่นที่นี่ยังมีกิจกรรมให้ทำเพลินๆ ทั้งการขี่จักรยาน หรือจะเดินชมวิวรับลมเย็นแบบชิลล์ๆ ก็รับรองว่าฟินต้อนรับปีใหม่แน่นอน

 

5.ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

ใกล้ใหม่ที่มีอากาศหนาวแบบนี้เป็นช่วงที่เหมาะมากๆ ที่จะมาเที่ยว ‘ภูทับเบิก’ ไม่ว่าจะเป็นสายแคมป์หรือไม่ก็รับรองว่าต้องถูกใจ เพราะที่ภูเขาแห่งนี้เปิดโอกาสให้เราได้นอนชมทะเลหมอกและสัมผัสความหนาวอย่างจุใจ ไม่ใช่แค่ทะเลหมอกที่มีให้เห็นตลอดทั้งวันเท่านั้น ภูทับเบิกยังมีไฮไลท์ ดาวบนดิน ให้ได้ชมความสวยงามให้เซฟเก็บไว้ในเมมโมรีพิเศษ ด้วยยอดภูทับเบิกที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,447 เมตร ยามค่ำคืนจะเห็นแสงไฟจากหมู่บ้านด้านล่างส่องแสงระยิบระยับเรียงราย เป็นเหมือนกลุ่มดาวน้อยใหญ่ที่เรียงรายกันจนถูกเรียกกว่า ‘ดาวบนดิน’ นั่นเอง

 

6.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

หากพูดถึงที่ชมทะเลหมอกในภาคเหนือ นอกจากกิ่วแม่ปานที่เราแปะเป็นจุดเช็กอินแรกแล้ว คงต้องมีลิสต์รายชื่อ ‘ดอยเสมอดาว’ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านรวมอยู่ด้วย ด้วยความพิเศษของพื้นที่ที่มีลานกว้างโค้งเว้าไปตามแนวเขา มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม จึงถือเป็นจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ดีต่อใจที่สายกรีน สายเที่ยวธรรมชาติปักหมุดว่าต้องลองมาสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต แม้ดอยเสมอดาวจะไม่ได้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดน่าน แต่เรื่องของทิวทัศน์และบรรยากาศนั้นไม่แพ้ดอยอื่นๆ เลย 

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือเตรียมเสื้อหนาว กางเต็นท์นอนดูดาวรับลมเย็นๆ รับรองว่าภาพที่เห็นตรงหน้าจะแทนคำตอบในใจได้เลยว่า ทำไมถึงชื่อดอยเสมอดาว!

 

7.ดอยทูเล จังหวัดตาก

ปิดท้ายกันที่ยอดดอยที่สูงที่สุดในจังหวัดตากอย่าง ดอยทูเล ที่จะเปิดให้ขึ้นไปชมความสวยงามในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี ความพิเศษคือ จะได้เห็นทุ่งหญ้าสีทองอร่ามและวิวของภูเขาที่สลับซับซ้อน สามารถกางเต็นท์นอนพักค้างคืนได้ด้วย แต่จุดไฮไลท์ของดอยทูเลจะอยู่ที่บนยอดดอย ที่จะได้ดูทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมถึงทะเลหมอกสีขาวที่ห่มคลุมท้องฟ้าท่ามกลางบรรยากาศเขียวขจีของภูเขาที่มีทั้งป่าดิบและทุ่งหญ้า นอกจากนี้บนยอดดอยยังมีน้ำตกและลำธารให้เราได้ไปเที่ยวชมอีกด้วย

 

เป็นยังไงกันบ้างกับ 7 พิกัดชมทะเลหมอกที่เรานำมาฝาก ใครที่ยังไม่มีแพลนไปฉลองปีใหม่ที่ไหนและเป็นสายท่องเที่ยวธรรมชาติ ลองไปตามพิกัดที่เราแนะนำดูรับรองไม่มีผิดหวัง จะไปกันเป็นคู่หรือยกแก๊งเพื่อนไปก็สนุกขึ้นไปอีก! ที่สำคัญอย่าลืมทำประกันรถยนต์ก่อนออกเดินทางไกลเพื่อความอุ่นใจทุกๆ เส้นทาง

 

สำหรับใครที่มองหาประกันรถยนต์ที่บริการรวดเร็ว เป็นธรรมในช่วงปีใหม่แบบนี้ อย่าลืมคิดถึงวิริยะประกันภัย ที่มีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร. 0-2129-7474 มากไปกว่านั้นทางเรายังมีบริการ V Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. ฟรี ทั่วประเทศ เพียง โทร. 1557 ไม่ว่าคุณจะอยู่เส้นทางไหน ก็หายห่วง! 


 

อ่านบทความอื่นๆ