ปลายร้อน ต้นฝน เที่ยวไหนดี? เปิดพิกัด 6 สถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ที่สายเที่ยวต้องรู้

ปลายร้อน ต้นฝน เที่ยวไหนดี? เปิดพิกัด 6 สถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ที่สายเที่ยวต้องรู้
ปลายร้อน ต้นฝน เที่ยวไหนดี? เปิดพิกัด 6 สถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคม ที่สายเที่ยวต้องรู้

 

      เดือนพฤษภาคมถือเป็นเดือนที่อยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างหน้าร้อนเข้าสู่ต้นฝน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาทองที่ต้องแพ็กกระเป๋าออกทริป เพราะนอกจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันแล้ว จะได้เจอกับธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนผ่าน อากาศที่กำลังเย็นสบาย ไม่ร้อนและไม่ชุ่มฉ่ำจนเกินไป มาเช็กอินไปพร้อมกันกับ 6 พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมที่สายเที่ยวต้องห้ามพลาด

 

6 สถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมน่าไป มีที่ไหนบ้าง?

 

1. ลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

ปลายร้อนต้นฝนแบบนี้ ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ สายลุย และกำลังมองหาพิกัดผจญภัยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ท้าทาย ไม่ควรพลาดกิจกรรมมันๆ อย่างการ ‘ล่องแก่งลำน้ำเข็ก’ กิจกรรมหน้าฝนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพิษณุโลก ที่รอให้ไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ผสมผสานการผจญภัยที่รับรองเลยว่าทั้งสนุก ตื่นเต้น เร้าใจไปกับความท้าทายของแก่งต่างๆ ตลอดระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร แถมความสนุกนี้ใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับน้ำว่าจะมากหรือน้อย 

ไฮไลท์ของการล่องแก่งลำน้ำเข็กคือความยากที่มีตั้งแต่ระดับ 1 - 5 จากทั้งหมด 17 แก่ง! ส่วนแก่งเด็ดๆ ที่เป็นไฮไลท์จะมี 3 แก่งด้วยกัน คือ แก่งซาง, แก่งนางคอย และแก่งยาว เป็นต้น อีกทั้งลำน้ำเข็กยังไหลเคียงคู่ไปกับถนนหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ใครไม่ได้ล่องแก่ง แต่อยากเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ก็สามารถขับรถตามไปเช็กอินจุดสำคัญๆ ของแต่ละแก่งได้ด้วย 

ขอแทรกเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ของลำน้ำเข็กไว้สักหน่อย ลำน้ำเข็กเป็นลำน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ในเขตอำเภอเขาค้อที่ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จนกลายมาเป็นน้ำตกศรีดิษฐ์และน้ำตกแก่งโสภาที่เลื่องชื่อของจังหวัดพิษณุโลกนั่นเอง

รู้ข้อมูลสถานที่แน่นๆ ขนาดนี้ สายแอดเวนเจอร์ สายลุยที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคมอยู่ต้องห้ามพลาด!


2. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

หน้าฝนที่มีบรรยากาศสุดฟินแบบนี้ ถ้าไม่มีชื่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่ในลิสต์ถือว่าผิด! เพราะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีอากาศดี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าเขียวขจีที่รอให้เราไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ แต่ก่อนจะไปชาร์จแบตมาทำความรู้จักประวัติอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กันคร่าวๆ ก่อนดีกว่า…

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2505 และได้รับสมญานามว่าเป็น ‘อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน’ ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ทั้งปราจีนบุรี, นครราชสีมา, นครนายก และสระบุรี มีเนื้อที่กว่า 2,215.42 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว! 

รู้ประวัติของสถานที่และชาร์จแบตกอบโกยอากาศบริสุทธิ์จนฉ่ำปอดแล้ว ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ยังอัดแน่นด้วยที่เที่ยวให้ได้เช็กอินอีกเพียบ เริ่มจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติกองแก้ว, อ่างเก็บน้ำสายศร, ผาเดียวดาย, ถ้าขายังฟิตประหนึ่งกล้ามนักกีฬาที่นี่ก็มีเส้นทางเดิน Trail รออยู่ หรือจะชมความสวยงาม เล่นน้ำคลายร้อนที่น้ำตกเหวสุวัต น้ำตกสุดอลังการกลางป่าเขาใหญ่ แต่ถ้าไม่อยากเปียกขอแนะนำกิจกรรมส่องสัตว์ที่ได้เห็นอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมที่น่าไป แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย จะไปกับเพื่อน กับแฟน หรือเป็นครอบครัวก็ฟิน!

 

3. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

กลางปีแบบนี้ใครที่อยากจัดทริปเที่ยวชมธรรมชาติหน้าฝน สัมผัสอากาศเย็นสบาย เราอยากแนะนำอุทยานแห่งชาติไทรทอง หรืออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมที่ควรมาเช็กอินสักครั้ง เพราะความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียวที่ออกดอกสวยเต็มทุ่งตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมยาวไปจนถึงกลางเดือนสิงหา หรือถ้าโชคดีปีไหนฝนตกหนักก็จะได้เห็นทุ่งดอกกระเจียวบานสะพรั่งเร็วกว่าเดิม 

ชมความสวยงามหาตัวจับยากที่ทุ่งดอกกระเจียวแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาหำหด ให้เดินเที่ยวชมป่าไม้เขียวขจี ภูเขาน้อยใหญ่ และลานหินงามรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของหินทรายเป็นเวลากว่าพันปีอีกด้วย 

 

4. อุทยานวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก

เปลี่ยนความอบอ้าวของหน้าร้อนให้กลายเป็นความร่มรื่น ชุ่มฉ่ำต้อนรับหน้าฝนกันที่อุทยานวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก เมืองมากทรัพยากรทางธรรมชาติที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีความงดงามตามธรรมชาติที่ไม่เคยร้างผู้คนก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งอุทยานวังตะไคร้เกิดจากการรวมตัวของธารน้ำไหล 2 ลำธาร คือ คลองมะเดื่อที่มาจากน้ำตกเหวกระถิน และคลองตะเคียนที่มาจากน้ำตกแม่ปล้อง นอกจากความงดงามของน้ำตกแล้วบรรยากาศรอบๆ ยังรายล้อมไปด้วยพรรณไม้เขียวชอุ่ม ภูเขา และสวนดอกไม้ประดับ 

ทั้งหมดนี้ทำให้อุทยานวังตะไคร้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน เล่นน้ำ ล่องแก่งหรือทำกิจกรรมทางน้ำไม่แพ้ที่ไหนๆ ส่วนใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาดการลอยตัวบนหอคอยสูง เหินฟ้าท้าทายความกล้า และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อย่างสระปทุม หรือสวนไม้ดอกคุณท่านให้สายโซเชียลได้ไปเก็บภาพสวยๆ กันด้วย

 

5. อุ้มผาง จังหวัดตาก

พูดถึงชื่ออุ้มผาง… ใครเคยไปต้องรู้ว่าการจราจรค่อนข้างลำบาก เพราะมีทางเข้าออกเพียงเส้นทางเดียว แต่รับรองเลยว่าถ้าได้ไปเยือนอำเภออุ้มผาง จังหวัดตากนี้ ต้องตกหลุมรักและอยากกลับไปอีกครั้งแน่นอน! เพราะอุ้มผางเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงเรื่องท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของไทยในฐานะแหล่งรวมน้ำตกและธรรมชาติสวยๆ ไว้หลายแห่ง หนึ่งไฮไลท์ขึ้นชื่อคือ น้ำตกทีลอซู น้ำตกหินปูนที่มีความยิ่งใหญ่และงดงาม ท่ามกลางป่าทึบ น้ำตกทีลอเล น้ำตกขนาดเล็กท่ามกลางป่าใหญ่ที่ต้องใช้การล่องแก่งเดินทางเข้าไปตามลำน้ำแม่กลองเท่านั้น หรือจะเป็นน้ำตกปิตุ๊โกรที่ได้รับฉายาว่า ‘น้ำตกรูปหัวใจ’ ที่กำลังเป็นที่นิยมและมีกระแสมาแรงบนโลกออนไลน์ตอนนี้ 

ชุ่มฉ่ำน้ำตกที่สวยงาม 3 สไตล์แล้ว ที่อุ้มผางยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้ได้ไปเช็กอินกันต่อ อาทิ ดอยหัวหมด, ดอยมะม่วงสามหมื่น แถมยังมีถนนคนเดินอุ้มผางให้เดินเลือกซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันด้วย ใครที่ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน ลองเก็บกระเป๋า มาสัมผัสบรรยากาศสุดฟินและความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ดู รับรองว่าคุณจะอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอน!

6. เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ใครรักท้องทะเลสวย น้ำทะเลใสๆ ต้องไม่พลาดเช็กอินที่เกาะทะลุ ที่เที่ยวสุด Unseen ในตำบลทรายทอง อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 736 ไร่ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีรูปร่างคล้ายวาฬวางตัวในแนวทิศเหนือจรดทิศใต้ ยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงชื่อเกาะทะลุ คำตอบก็คือมาจากสัณฐานของเกาะบริเวณตอนเหนือมีช่องทะลุที่เป็นโพรงขนาดใหญ่ เกิดจากสายน้ำและแรงลมกัดกร่อนจนเกิดเป็นช่องทะลุที่มองลอดผ่านไปยังอีกฝั่งได้ จนเป็นที่มาของชื่อ ‘เกาะทะลุ’ แต่ที่น่าสนใจคือเกาะทะลุขึ้นชื่อว่ามีปะการังอุดมสมบูรณ์และยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูง กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือการดำน้ำตื้นที่รับรองว่าได้เห็นทั้งปะการังสีสันแปลกตา เช่น ปะการังเขากวาง, ปะการังสมอง, ปะการังดอกไม้ เป็นต้น และฝูงปลาน้อยใหญ่ที่สวยงามไม่แพ้ทะเลอันดามันเลย 

ดำน้ำแล้วยังไม่หนำใจ รอบๆ เกาะทะลุยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอีกมากมาย ทั้งอ่าวมุกที่มีบรรยากาศเงียบสงบ หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส หรือดำน้ำดูปะการังต่อที่อ่าวไทรใหญ่ พายเรือคายัค หรือเล่นเรือใบ หรือจะนั่งชมวิวชิลล์ๆ เสพบรรยากาศสวยงามที่อ่าวเทียนก็ไม่ผิดหวังแน่นอน

 

นี่คือ 6 พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวเดือนพฤษภาคมของคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปเติมพลัง พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ หลีกหนีความวุ่นวายไปสัมผัสกับธรรมชาติในมุมที่สดใหม่ไม่ซ้ำใคร ในบรรยากาศปลายร้อนต้นฝนที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก 

 

เเละเพื่อให้ทุกเส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝนปลอดภัยและมั่นใจตลอดทริป อย่าลืมทำประกันรถยนต์กับวิริยะประกันภัย ประกันภัยที่พร้อมดูแลให้คุณอุ่นใจทุกเส้นทาง ด้วยการบริการที่รวดเร็ว เป็นธรรม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดแผนประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร. 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ