เข้าช่วงหน้าฝนอุปสรรค์ที่จะต้องเจอก็คือ ทัศนียภาพในการขับขี่รถยนต์ตอนฝนตกที่มองไม่ชัด โดยทางผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้คิดเครื่องมือปัดน้ำฝนในการช่วยเหลือผู้ขับขี่ไว้แล้ว แต่ประสิทธิภาพในการทำงานของที่ปัดน้ำฝนนั้นจะทำงานได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพของยางปัดน้ำฝนที่ใช้เช่นกัน

    หลังจากหมดฤดูฝน หลายคนอาจไม่ค่อยได้ดูแลรักษาที่ปัดน้ำฝนสักเท่าไหร่ เพราะเห็นว่าเป็นจุดที่ไม่สำคัญ เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ แล้วจำเป็นต้องใช้ ทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ รีดน้ำออกจากกระจกได้ไม่เต็มที่ ทัศนียภาพก็แย่ลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย วันนี้วิริยะประกันภัยจะขอมาแนะนำวิธีการเช็คสภาพและดูแลยางปัดน้ำฝนแบบง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน ดังนี้

1. ทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอ

    หลังจากที่ปัดน้ำฝนได้ถูกใช้งานมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการปัดน้ำฝนหรือล้างคราบเลอะบนกระจก ตัวยางปัดน้ำฝนก็จะมีคราบฝุ่น โคลน และขี้นกปะปนอยู่ อาจจะส่งผลให้การทำงานของที่ปัดน้ำฝนมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่ วิธีการทำความสะอาดง่ายๆ คือ นำผ้าสะอาดมาชุบน้ำหมาดๆ เช็ดตามแนวขอบยางปัดน้ำฝนให้สะอาดเท่านี้ก็เพียงพอ

2. อย่ายกที่ปัดน้ำฝนขึ้นเมื่อนำรถมาจอดตากแดด

    การยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นกลางแดดนั้น จะทำให้ที่ปัดน้ำฝนกระทบกับความร้อนของแดดแบบเต็มๆ ซึ่งจะส่งผลให้ตัวยางปัดน้ำฝนเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย โดยปกติทั่วไปยางปัดน้ำฝนจะมีอายุการใช้งานเป็นระยะเวลา 1-2 ปี แต่หากนำยางปัดน้ำฝนมาตากแดดอาจจะมีรอยฉีกขาดเสียก่อน อีกทั้งมอเตอร์ของใบปัดจะไม่พังด้วย หากต้องเปลี่ยนใหม่ขอบอกเลยว่าราคาไม่ใช่เล่นๆ

3. ตรวจสภาพหน้ายาง

    หนึ่งในการเช็คสภาพยางปัดน้ำฝนแบบง่ายๆ ด้วยการสัมผัสคือ การทดลองจับยางปัดน้ำฝนดูว่าตัวยางนั้นมีความแข็งและเป็นขุยหรือไม่ หากแข็งหรือเป็นขุยเราขอแนะนำให้เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนทันที เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย

4. สังเกตรอยบนกระจก

    คุณสามารถสังเกตรอย หรือทดสอบการทำงานของยางปัดน้ำฝนว่ามีเสียงฝืดหรือเปล่า ถ้าหากปัดแล้วเกิดรอยหรือมีเสียงฝืดเราขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนยางด้วยเช่นกัน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ยิ่งปัดให้เกิดการเสียดสีบ่อยๆ ตัวยางอาจเสื่อมสภาพมากขึ้นจนตัวก้านเหล็กขูดกระจก ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกรถได้

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราสามารถเช็กที่ปัดน้ำฝนได้ด้วยตัวเองที่บ้าน

สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือจะเป็นประกันรถไฟฟ้า ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว รวมถึงประกันรถจักรยานยนต์ และประกันบิ๊กไบค์ที่คุ้มครองสูงสุดทันที รวมถึงใครที่กำลังมองหาพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474