ภาษีรถยนต์ คืออะไร? หากขาดการต่อภาษีจะเป็นอย่างไร?

ภาษีรถยนต์ คืออะไร? หากขาดการต่อภาษีจะเป็นอย่างไร?
ภาษีรถยนต์ คืออะไร? หากขาดการต่อภาษีจะเป็นอย่างไร?

เชื่อว่าหนึ่งในเรื่องที่ทำให้คนขับรถต้องปวดหัวอยู่ตลอดก็คือ เรื่องภาษีรถยนต์ เพราะนอกจากจะสับสนกับ พรบ.รถยนต์ ที่ต่ออยู่ประจำทุกปีแล้ว ยังจะต้องเตรียมเงินและเอกสารต่างๆ ไปยื่นที่กรมขนส่งเพื่อต่อภาษีรถยนต์ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าต่อทะเบียนรถยนต์นั่นเอง แต่พอไปถึงกลับต้องจ่ายภาษีรถยนต์ที่แพงขึ้น ใครกำลังเจอปัญหาเกี่ยวกับภาษีรถยนต์และการต่อภาษีรถยนต์ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบให้กับทุกคนกันว่า ภาษีรถยนต์ คืออะไร? และหากขาดการต่อภาษีรถยนต์จะเป็นอย่างไร
ภาษีรถยนต์ คืออะไร?

ภาษีรถยนต์ คืออะไร?

ภาษีรถยนต์ คือ ป้ายกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ผู้มีรถยนต์ทุกคนต้องจ่ายภาษีรถยนต์ตามที่กฎหมายบังคับ เมื่อถึงกำหนด ซึ่งภาษีรถยนต์ที่เราจ่ายไปในทุกปีทางหน่วยงานภาครัฐจะนำไปพัฒนาปรับปรุงถนน รวมไปถึงการคมนาคมภายในประเทศต่อไป ดังนั้นเจ้าของรถยนต์ทุกคนจะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์หรือต่อทะเบียนรถยนต์ทุกปี หากปล่อยให้ขาดอาจทำให้ถูกปรับและเสียเวลาในการดำเนินการต่ออีกด้วย

ข้อควรรู้ในการต่อภาษีรถยนต์

โดยการต่อภาษีรถยนต์นั้นมีกฎระเบียบอยู่ ดังนั้นก่อนที่จะไปต่อภาษีรถยนต์ควรศึกษาข้อมูลและกฎระเบียบให้เข้าใจก่อน เพื่อที่จะได้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์    

  1. การต่อภาษีรถยนต์แต่ละครั้งจะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์ในปีที่หมดอายุ โดยคุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ก่อนวันที่จะหมดอายุล่วงหน้า 90 วัน ซึ่งก็มีเวลาเพียงพอให้คุณสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีรถยนต์ได้พอสมควร

  2. โนกรณีที่ต่อภาษีรถยนต์ล่าช้ากว่าที่กำหนด ค่าปรับก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยนับตั้งแต่วันที่ขาด 1 วันขึ้นไป ทางกฎหมายจะถือว่าเป็นการขาดต่อภาษีรถยนต์ ซึ่งนับเวลาตั้งแต่ 1-3 ปี จะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1 % ต่อเดือน

  3. โนกรณีที่ขาดต่อภาษีรถยนต์มากกว่า 3 ปีขึ้นไป จะถือว่าป้ายทะเบียนรถยนต์นั้นๆ ถูกยกเลิกทันที หากต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่จะต้องนำป้ายทะเบียนเดิมไปคืนที่กรมขนส่งทางบก พร้อมกับชำระค่าปรับ จึงจะสามารถทำใหม่ได้

  4. สำหรับการต่อภาษีรถยนต์ทุกครั้ง รถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 7 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อ แต่หากรถยนต์มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจสภาพรถให้ครบก่อน ถึงจะสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้

  5. สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือคุณจะต้องต่อพรบรถยนต์ หรือที่เรียกว่าประกันภาคบังคับก่อน ถึงจะทำการต่อภาษีรถยนต์ได้ 

ต่อภาษีรถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

เมื่อรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขเพิ่มเติมต่างๆ ของการต่อภาษีรถยนต์แล้ว มาต่อกันที่เรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ เพราะเป็นอีกหนึ่งเรื่องปวดหัวที่หลายคนมักพบเจอ เนื่องจากเอกสารไม่ครบ ทำให้ต้องเสียเวลาในการย้อนกลับมาเสียภาษีรถยนต์อีกครั้ง โดยเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนไปยื่นต่อภาษีรถยนต์ มีดังนี้

  1. คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนาก็ได้
  2. หลักฐานที่ระบุไว้ว่าได้ทำประกันภัยตามที่กฎหมายบังคับ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า พ.ร.บ. รถยนต์
  3. ใบรับรองการตรวจสอบสภาพรถยนต์ หากรถยนต์มีอายุเกินกว่า 5 ปีขึ้นไป รวมไปถึงในกรณีที่รถมีการดัดแปลงสภาพ

 ซึ่งข้อมูลเพิ่มเติมทั้งหมดเหล่านี้ คือสิ่งที่คุณต้องใส่ใจและทำความเข้าใจก่อนจะไปต่อภาษีรถยนต์ หากไม่อยากเสียเวลาและค่าปรับเพิ่ม พร้อมกับเตรียมเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ให้พร้อมเพื่อสามารถ   ดำเนินการได้ทันที

ต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง

ต่อภาษีรถยนต์ ได้ที่ไหนบ้าง?

หลังจากเตรียมเอกสารสำหรับการต่อภาษีรถยนต์แล้ว ก็มาถึงเรื่องของสถานที่สำหรับการต่อภาษีรถยนต์กันบ้าง ซึ่งการต่อภาษีรถยนต์หรือเสียภาษีรถยนต์คุณสามารถเดินทางไปทำได้ด้วยตนเอง หรือจะเลือกใช้บริการผ่านช่องทางภาษีรถยนต์ออนไลน์ หรือตัวแทนรับต่อภาษีรถยนต์ ที่มีบริการเป็นจำนวนมากก็ได้เช่นกัน แต่จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน

  1. สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ (ไม่ว่ารถจดทะเบียนที่จังหวัดไหนก็สามารถจ่ายภาษีรถยนต์ได้ทั้งหมด)

  2. ที่ทำการไปรษณีย์

  3. เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ

  4. การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ (www.eservice.dlt.go.th)

  5. ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ชอปให้พอแล้วต่อภาษี” (Shop Thru For Tax)

  6. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)

  7. จุดบริการเลื่อนล้อต่อภาษีรถยนต์ (Drive Thru For Tax)

  8. ใช้บริการผ่านสถานที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์และต่อภาษีรถยนต์ โดยจะมีค่าบริการอยู่ที่ 200-300 บาท ต่อคัน

หากไม่ต่อภาษีรถยนต์จะเป็นยังไง?

สำหรับใครหลายคนที่อาจหลงลืมในเรื่องของการต่อภาษีรถยนต์หรือเสียภาษีรถยนต์ไปบ้าง ซึ่งทางกฎหมายจะมีบทลงโทษอยู่ 2 กรณีด้วยกัน คือ รถที่ทะเบียนยังไม่ถูกยกเลิกและรถที่ทะเบียนถูกยกเลิกแล้ว ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

  1. รถยนต์ที่ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 1 ปี แต่ยังไม่ถึง 3 ปี
    ในกรณีที่รถยนต์ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 1 ปี แต่ยังไม่ถึง 3 ปี ทะเบียนจะยังไม่ถูกยกเลิกและสามารถไปเสียค่าภาษีรถยนต์และต่อทะเบียนได้ตามปกติ และมีค่าปรับในการชำระภาษีรถยนต์ย้อนหลังเดือนละ 1 %  

  2. รถยนต์ที่ขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 3 ปีขึ้นไป
    สำหรับกรณีที่รถยนต์ขาดต่อภาษีรถยนต์นานเกิน 3 ปีขึ้นไป จะต้องทำการจดทะเบียนใหม่เท่านั้น เนื่องจากป้ายทะเบียนได้ถูกระงับการใช้งานไปแล้ว โดยเจ้าของรถจะต้องนำแผ่นป้ายทะเบียนและเล่มทะเบียนรถไปคืนให้กับทางกรมขนส่งทางบกภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่โดนยกเลิกทะเบียน หากไม่นำไปคืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แล้วจึงจะสามารถต่อทะเบียนและภาษีรถยนต์ได้ตามปกติ พร้อมทั้งเสียค่าปรับภาษีรถยนต์ย้อนหลังเช่นเดียวกัน

จะเห็นได้ว่าภาษีรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญและไม่ควรลืมในการต่อภาษีรถยนต์ทุกครั้ง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นาน นอกจากจะเสียเงินไปกับค่าปรับและเสียเวลาแล้ว ป้ายทะเบียนรถยังอาจถูกระงับการใช้งานอีกด้วย

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ