การดูแลรถหลังน้ำท่วม

การดูแลรถหลังน้ำท่วม
การดูแลรถหลังน้ำท่วม


ขั้นตอนแรกคือการสำรวจความเสียหาย

ให้สังเกตว่ามีน้ำเข้าเครื่องหรือไม่ จากสีของน้ำมันเครื่อง/น้ำมันเกียร์ ถ้ามีน้ำสีจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นเหมือนสีนม
จากนั้นให้ตรวจสอบเครื่องยนต์โดยทดลองหมุน
- ถ้าเครื่องหมุนได้
ให้ทำการไล่น้ำออกทางหัวลูกสูบ โดยให้ถอดหัวเทียนหรือหัวฉีดและให้เปิดกรองอากาศออก เปิดลิ้นปีกผีเสื้อให้สุด สตาร์ทเครื่องเพื่อไล่น้ำออก จากนั้นให้วัดกำลังอัดในกระบอกสูบว่าปกติหรือไม่ ถ้าปกติให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอีกครั้ง แล้วจึงลองสตาร์ทเครื่องว่าติดหรือไม่ หากกำลังอัดผิดปกติให้เปิดฝาสูบเพื่อตรวจเช็คความเสียหายต่อไป
-ถ้าเครื่องหมุนไม่ได้
ให้เปิดฝาสูบเพื่อตรวจเช็คความเสียหายต่อไป

ตรวจสอบชุดเกียร์

- กรณีเกียร์ออโต้
ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ว่ามีน้ำปะปนหรือไม่ หากมีน้ำปะปนจะมีลักษณะ คล้ายโยเกิร์ตรสสตรอเบอร์รี่ ให้ถอดเกียร์ออกจากเครื่อง และนำทอร์คคอนเวเตอร์มาคว่ำล้างโดยผสมน้ำมันเบนซินหมุนทอร์คตามเข็มนาฬิกา ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง ตัวเกียร์ให้ผ่าออกล้างทำความสะอาดเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และเฟืองท้าย
-กรณีเกียร์ธรรมดา
ถอดหัวหนูออก ล้างทำความสะอาดคลัทช์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ และเฟืองท้าย

ทำความสะอาดตามระดับน้ำที่ท่วมตัวรถ

กรณีระดับน้ำ A-B : ท่วมสูงถึงพื้นรถ แต่ไม่ถึงเบาะนั่ง

1.ปล่อยน้ำและโคลนที่สกปรกออกจากตัวรถ
2.ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารด้วยน้ำสะอาด
3.นำพรมออกจากตัวรถ ซักล้างให้สะอาดแล้วตากให้แห้ง (วางบนพท้นที่ราบ ห้ามตากบนราว)
4.เปิดประตูห้องโดยสารเพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเท
5.ล้างภายในห้องเครื่องยนต์และใต้เครื่องยนต์ก่อนที่จะเป่าไล่น้ำให้แห้ง
6.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์
7.เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน/สารหล่อลื่นที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่น้ำท่วมถึง
8.ล้างทำความสะอาดไดสตาร์ท ฉีดน้ำยาไล่ความชื้นและเป่าลมให้แห้ง
9.ทำความสะอาดชุดกล่องควบคุม ปลั๊กไฟต่างๆ และฉีดน้ำยาไล่ความชื้น
10.ล้างทำความสะอาดและตรวจเช็คชุดเบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมทั้งเป่าลมให้แห้ง
11.ทำความสะอาดชุดเข็มขัดนิรภัย
12.ทำความสะอาดภายนอกตัวรถ

กรณีระดับน้ำ B-C : ท่วมสูงถึงเบาะนั่ง
1.
เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และกรองน้ำมันเครื่อง
2. ทำความสะอาดไดชาร์จ ฉีดน้ำยาไล่ความชื้น เป่าลมให้แห้ง
3.ทำความสะอาดเบาะนั่ง ตากให้แห้งในที่ร่ม
4.ทำความสะอาดชุดกล่องฟิวส์ ฉีดน้ำยาไล่ความชื้น
5.ทำความสะอาดไฟหน้า + ไฟท้าย
6.ทำความสะอาดชุดตู้แอร์
7.ทำความสะอาดชุดแผงนวมประตู
8.ทำความสะอาดชุดมอเตอร์ + รางกระจกประตู
9.ทำความสะอาด และตรวจสอบชุดลูกรอกสายพานต่างๆ

กรณีระดับน้ำ C-D : ท่วมสูงถึงพื้นรถ แต่ไม่ถึงเบาะนั่ง
1.
ตรวจเช็คแบตเตอรี่ ถ้ามีน้ำเข้าให้เปลี่ยนถ่ายน้ำกรด
2. ตรวจเช็คว่ามีน้ำเข้าเครื่องและชุดเกียร์หรือไม่
3.ทำความสะอาดชุดแผงนวมหน้าปัด
4.ทำความสะอาดชุดหน้าปัดเรือนไมล์ พร้อมไล่ความชื้น
5.ถอดทำความสะอาดผ้าหลังคา

 

   สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ อาทิ คุ้มครองน้ำท่วม สูญหาย ไฟไหม้ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ