รู้ไว้ก่อนภัยมา! วิธีรับมือกับพายุฝน ป้องกันตัวเองยังไงให้ปลอดภัย

รู้ไว้ก่อนภัยมา! วิธีรับมือกับพายุฝน ป้องกันตัวเองยังไงให้ปลอดภัย
รู้ไว้ก่อนภัยมา! วิธีรับมือกับพายุฝน ป้องกันตัวเองยังไงให้ปลอดภัย

 

      ในช่วงที่อากาศแปรปรวนแบบนี้ ขับรถอยู่ดีๆ ฟ้าก็ครึ้ม ฝนก็ตกได้แบบไม่ทันตั้งตัว ฝนตกจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะเมื่อฝนกลายเป็น ‘พายุฝน’ ที่มาพร้อมลมแรงและอันตรายรอบด้าน และขึ้นชื่อว่าพายุก็ถือเป็นภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรัก วันนี้เรารวบรวมวิธีรับมือกับพายุแบบเข้าใจง่ายที่ควรรู้ไว้เพื่อจะได้เตรียมพร้อมล่วงหน้า จะต้องทำอย่างไร มีอะไรที่ต้องเช็กบ้างมาดูพร้อมกัน

วิธีรับมือกับพายุฝน ก่อนพายุฝนมาต้องเตรียมตัวอย่างไร

ก่อนพายุฝนจะเข้าแน่นอนว่าเราจะได้รับการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ ช่องทางออนไลน์ และโทรทัศน์ ทำให้เราสามารถวางแผนและเตรียมตัวรับมือกับพายุฝนที่กำลังจะมาได้ ดังนี้

  1. วางแผนล่วงหน้า โดยการติดตามฟังข่าวสารและการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ที่เสี่ยงอันตราย

  2. ถ้ามีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านให้สังเกตสภาพอากาศ เช่น ฟ้ามืด ฝนตก หรือมีลมพัดแรงผิดปกติหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนว่าพายุฝนกำลังจะมา ยิ่งถ้าเห็นแสงฟ้าผ่าและมีเสียงฟ้าร้องตามมาอีก 30 วินาทีต่อมา ให้รีบหาที่หลบทันที

  3. ตรวจเช็กความแข็งแรงภายในตัวบ้านตามจุดต่างๆ และเก็บของที่อาจถูกลมพัดปลิวได้และก่อให้เกิดอันตรายไว้ในที่มิดชิด

  4. ส่วนข้างนอกบ้านให้คอยเช็กตามจุดต่างๆ และตัดแต่งกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้กับตัวบ้าน หากมีต้นไม้ใหญ่ควรหาไม้มาค้ำยันเพื่อไม่ให้โค่นล้มหรือเกี่ยวเสาไฟฟ้าขณะลมพัดแรง

  5. จัดเตรียมสิ่งจำเป็นยามฉุกเฉิน เช่น น้ำดื่ม ยารักษาโรค อาหารแห้ง ถ่านไฟฉาย ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นและไฟฉาย หากที่บ้านมีเครื่องปั่นไฟฉุกเฉิน ควรศึกษาวิธีใช้งานเผื่อเอาไว้ด้วย

  6. กักตุนน้ำสำรอง โดยการเติมน้ำใส่ถังหรือขวดน้ำสำหรับใช้ทำอาหาร หรืออาบน้ำในกรณีที่ไฟฟ้าดับและไม่สามารถสูบน้ำได้

  7. ชาร์จแบตโทรศัพท์ให้พร้อมพร้อมกับค้นหาเบอร์ฉุกเฉิน เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือต้องการขอความช่วยเหลือ  

 

วิธีรับมือกับพายุฝน ระหว่างที่เกิดพายุฝน

นอกจากเตรียมตัวรับมือกับพายุฝนแล้ว ระหว่างที่เกิดพายุเราก็ต้องปกป้องตัวเองและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดังนี้

-  ถ้าบ้านมีสัตว์เลี้ยงให้รีบนำสัตว์เลี้ยงเข้าบ้านทันที และถอดปลอกคอสัตว์เลี้ยงออกเพราะอาจเป็นตัวล่อฟ้าได้

-  ปิดประตูและหน้าต่างทุกบ้านให้สนิท และอยู่ให้ห่างจากหน้าต่าง รวมถึงหลีกเลี่ยงอยู่ในพื้นที่ที่อาจมีสิ่งของตกหล่นลงมา

-  ไม่สวมเครื่องประดับ โดยเฉพาะเครื่องประดับที่ทำมาจากโลหะ เช่น เงิน ทองคำ ทองแดง เพราะอาจเป็นสื่อนำไฟฟ้าและทำให้เกิดอันตรายได้

-  งดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและโทรศัพท์มือถือระหว่างที่เกิดพายุฝน เพราะกระแสไฟฟ้าอาจวิ่งเข้าสู่ร่างกายได้ และไม่ควรยืนพิงผนังหรือสัมผัสกับผนังคอนกรีต เพราะผนังคอนกรีตส่วนใหญ่มีตัวนำกระแสไฟฟ้าอยู่

 

หลังจากพายุฝนสงบ ต้องทำอย่างไร

ข้อแรกที่ต้องทำเมื่อพายุฝนพัดผ่านไปแล้ว คือ อย่าเพิ่งรีบออกจากตัวบ้านหรือออกไปในที่โล่งแจ้ง ควรอยู่ในตัวอาคารหรือในบ้านอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุฟ้าผ่าที่มากับพายุฝน รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากพายุฝนพัดมา และสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ได้แก่

  1. ออกมาตรวจสอบที่อยู่อาศัยว่ามีรอยแตกร้าวหรือได้รับความเสียหายหรือไม่ หากตรวจเจอให้รีบอพยพออกมาจากบ้านทันทีแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ และไม่ควรกลับเข้าไปในตัวบ้านหรือตัวอาคารอีก จนกว่าจะได้รับการรับรองความปลอดภัย

  2. หากตอนเกิดพายุฝนมีคนได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือคนรอบข้าง ให้รีบโทรเบอร์ฉุกเฉินทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ และทั้งหมดนี้คือเบอร์ฉุกเฉินจำเป็นที่ต้องเซฟไว้ 

-  1554 เบอร์หน่วยกู้ชีวิต วชิรพยาบาล

-  1669 เบอร์สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ทั่วประเทศ)

-  1646 เบอร์หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน (กทม.)

-  1691 เบอร์โรงพยาบาลตำรวจ

-  1784 เบอร์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

-  1667 เบอร์สายด่วนกรมสุขภาพจิต

 

ขึ้นชื่อว่าพายุฝน แม้เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็สามารถป้องกันตัวเองและคนรอบข้างให้ปลอดภัยได้ เพียงแค่รู้วิธีรับมือกับพายุฝนและเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะอยู่บนถนน ที่ทำงาน หรืออยู่ในบ้าน ก็จะช่วยให้คุณปลอดภัยอย่างแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ