เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน รู้ก่อน ซ่อมเร็ว รถไม่พัง

เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน รู้ก่อน ซ่อมเร็ว รถไม่พัง
เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน รู้ก่อน ซ่อมเร็ว รถไม่พัง

กักตัวอยู่บ้าน จอดรถตากแดดทิ้งไว้นานๆ อาจทำรถพังโดยไม่รู้ตัว หน้าร้อนแบบนี้ อย่ามัวแต่ดูแลตัวเองจนลืมดูแลรถคู่ใจ วันนี้วิริยะประกันภัยขอเสนอ เคล็ดลับดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อน ดูแลให้พร้อมใช้ เกิดเหตุฉุกเฉินอะไรก็เอาอยู่ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

     1.ยางรถยนต์
     ผลกระทบของอากาศที่ร้อนมากขึ้นนั้น จะส่งผลให้ความดันภายในยางมีระดับเพิ่มขึ้น ดังนั้นพอยางรถเกิดการเสียดสีเข้ากับพื้นถนนที่มีความร้อนสูงโดยเฉพาะยางเก่า จะทำให้ยางตึงและเสื่อมสภาพง่ายอาจจะถึงขั้นยางระเบิดได้เลยทีเดียว

     ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบลมยางและสภาพยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และยางรถที่ดีจะต้องอยู่ในสภาพที่ไม่ตึง กรอบ หรือแตก ถ้ายางที่ใช้อยู่มีอายุการใช้งานเยอะแล้ว  แนะนำให้เปลี่ยนเส้นใหม่ไปเลยเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง

     2.แบตเตอรี่
     การจอดรถทิ้งไว้ให้เจอกับอากาศร้อนต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ อาจจะทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดรวมถึงแบตเ¬ตอรี่มีการเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ส่งผลให้รถมีอาการสตาร์ทติดยากกว่าเดิม หรือแย่ไปกว่านั้นเกิดการสตาร์ทไม่ติดเลยก็เป็นได้

     วิธีดูแลแบตเตอรี่รถช่วงหน้าร้อนนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่จอดรถนิ่งๆ ก่อนสักพักหนึ่งเพื่อให้เครื่องยนต์คลายความร้อนออกมาก่อนการเดินทาง เนื่องจากรถผ่านการจอดตากแดดเป็นเวลานานอาจจะทำให้เครื่องร้อนได้ และหลังจากสตาร์ทเครื่องแล้วไม่ควรออกรถทันที ควรรอให้ตัวเครื่องและระบบของรถมีความเย็นลงเสียก่อน  อีกทั้งควรเช็คระบบไฟฟ้าทั้งคันรถและแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากเป็นความร้อนที่เกิดภายในห้องผู้โดยสาร สามารถแก้ไขได้โดยทำการเปิดประตูรถสลับกับปิดประตูรถกันไปมาเบาๆ เพื่อไล่ความร้อนภายในรถออกมา

     3.เบรก
     อากาศที่ร้อนระอุจะส่งผลให้ความร้อนไปสะสมอยู่ที่จานเบรกมากขึ้น และเมื่อต้องใช้เบรกอย่างกระทันหัน อาจทำให้จานเบรกเบี้ยวหรือคด เวลาเหยียบเบรกเหยียบไม่ค่อยลง ขับไปนานๆ จะรู้สึกพวงมาลัยสั่น นั่นแปลว่าระบบเบรกของคุณกำลังมีปัญหา

     เบรกถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ ในการขับรถ และเป็นส่วนที่ต้องระวังให้มากเมื่อมีความผิดปกติ ทางที่ดีเมื่อรู้สึกว่าการเบรกในแต่ละครั้งมันเริ่มขัดๆ ให้รีบเอารถเข้าศูนย์เพื่อทำการตรวจเช็คทั้งผ้าเบรกและจานเบรกทันที

     4.ขอบยางประตูและที่ปัดน้ำฝน
     ด้วยความร้อนและแสงแดดที่แผดเผาหนักขึ้นทุกวันๆ อุปกรณ์รถที่เป็นยางมักเสื่อมอายุก่อนใคร เช่น ขอบยางประตูและยางที่ปัดน้ำฝน ขอบยางประตูเสื่อมทำให้มีปัญหาในเวลาปิดประตู หรือยางที่ปัดน้ำฝนเมื่อเสื่อมสภาพ หากใช้งานโดยไม่เปลี่ยนไปนานๆ จะทำให้กระจกเป็นรอย และเวลาฝนตกหนักๆ ทำให้ใช้งานปัดน้ำฝนได้ไม่ดี มองถนนไม่ชัด เป็นอันตรายขณะขับขี่ได้

     วิธีดูแลรักษาแบบง่ายๆ สำหรับอุปกรณ์ 2 อย่างนี้คือ การหลีกเลี่ยงการจอดรถที่ต้องตากแดดแรงๆ แต่ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรหาผ้ามาคลุมรถทุกครั้งที่ต้องจอดตากแดด และหมั่นเช็คอยู่สม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายเมื่อต้องใช้งาน

     5.แอร์
     เมื่อต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ หรือต้องขับรถบนถนนในเวลาที่อากาศร้อนสุดๆ หลายคนจะชอบเร่งแอร์ให้เย็นทันทีเมื่อขึ้นรถ จึงทำให้ระบบปรับอากาศต้องต่อสู้กับความร้อนในรถแบบกระทันหัน ส่งผลให้ทำงานหนักจนเกินไปแล้วปรับตัวไม่ทัน อาจทำให้เครื่องยนต์พังหรือเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิม

     ควรไล่อากาศร้อนในรถออกไปก่อนที่จะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเปิด-ปิดประตูสลับกันไปมาหรือลดกระจกลงเล็กน้อย เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากห้องโดยสาร เมื่อไล่ความร้อนออกไปได้แล้วบางส่วนแล้วจึงค่อยเปิดแอร์รถยนต์แบบเร่งความเย็นขึ้นทีละระดับอย่างช้าๆ ไม่ควรเร่งแอร์ให้เย็นสูงสุดทันทีและที่สำคัญอย่าลืมเติมน้ำยาแอร์ให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะอยู่เสมอ

     6.การเก็บของ
     หลายคนอาจจะให้รถยนต์ส่วนตัวเป็นที่เก็บข้าวของที่ต้องใช้ยามจำเป็นเมื่อออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์ฟิตเนส เอกสาร คอมพิวเตอร์ทำงาน หรือแม้กระทั่งของยังชีพต่างๆ อย่างขนมขบเคี้ยว อาหารแห้ง  เรียกได้ว่ารถยนต์หนึ่งคันสามารถเป็นบ้านอีกหลังได้เลย แต่ถ้าหากเก็บของเหล่านี้ไว้ในรถที่ร้อนจนเกินไป อาจทำให้อาหารเกิดการเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ของใช้เสื่อมสภาพพังเร็ว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีปะจุไฟฟ้าอาจก่อให้เกิดประกายไฟและระเบิดได้ในที่สุด

     เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดกับตัวรถ จึงไม่ควรเก็บอาหาร ของใช้ที่ไม่ทนต่อความร้อน หรืออุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการระเบิดไว้ในรถได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่สำรอง หรือผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแก๊สต่างๆ
     เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถยนต์คู่ใจในสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตกเช่นนี้ การหมั่นดูแลรักษาและตรวจเช็คสภาพรถและอะไหล่ทุกส่วนอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพื่อการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นและเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกคน

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ