แชร์เคล็ดลับ ขับขี่ปลอดภัยสำหรับวัยเก๋า

แชร์เคล็ดลับ ขับขี่ปลอดภัยสำหรับวัยเก๋า
แชร์เคล็ดลับ ขับขี่ปลอดภัยสำหรับวัยเก๋า

อัตราการขับขี่ของผู้สูงอายุในประเทศไทยนั้นนับว่ายังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แต่ก็มีผู้สูงอายุอีกไม่น้อยที่ไม่อยากเป็นภาระของลูกหลาน อยากที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ต้องการขับรถไปไหนมาไหนเองอยู่เสมอ 
     แต่การจะขับรถบนท้องถนนให้ปลอดภัยนั้น ไม่ใช่แค่ต้องขับรถให้เป็นอย่างเดียว แต่ต้องรู้ถึงกฎจราจรที่สำคัญบนท้องถนนอีกด้วย และอีกประการที่เป็นสิ่งสำคัญของผู้สูงวัยในการขับรถบนท้องถนนก็คือสุขภาพร่างกายที่ต้องมีความสมบูรณ์พร้อมขับขี่ เพราะเมื่อคุณอายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนที่เคย ประสิทธิภาพในการขับขี่ก็อาจจะลดลงไปด้วย เช่น ตามองไม่ไวเหมือนเดิม หูได้ยินไม่ชัด ความคล่องแคล่วที่มีก็ช้าลง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
     งั้นมาดูกันดีกว่าว่า ผู้สูงอายุขับรถให้ปลอดภัย…ควรทำอย่างไรบ้าง?


     1. ดูแลสุขภาพให้ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
     เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นมักมาพร้อมกับความถดถอยของสุขภาพร่างกาย และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ ที่ช้าลง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของการขับรถ ไม่ว่าจะเป็น การหมุนพวงมาลัย การมองหลัง หรือแม้แต่การขับเข้าจอดที่จอดรถ ก็อาจจะทำได้ลำบากขึ้นหากมีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้นการดูแลสุขภาพให้ดี และหมั่นออกกำลังอยู่เสมอจะช่วยให้ร่างกายของผู้สูงวัยแข็งแรงและตอบสนองได้ไวมากขึ้น โดยอาจจะเริ่มจากท่าออกกำลังง่ายๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่หักโหมจนเกินไปและเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อยู่เสมอ


     2. ตรวจสุขภาพดวงตาและหูเป็นประจำ
     โดยทั่วไปสุขภาพของผู้สูงอายุที่เห็นได้ชัดในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือดวงตาและหู ซึ่งถ้าการทำงานของอวัยวะทั้ง 2 อย่างนี้เสื่อมลงก็อาจจะทำให้การขับขี่ในแต่ละครั้งนั้นมีความอันตรายมากขึ้น เช่น หูได้ยินน้อยลงเมื่อมีรถกำลังพุ่งเข้ามาแล้วบีบแตรส่งสัญญาณก็อาจไม่ได้ยิน หรือถ้าผู้สูงอายุคนไหนมีปัญหากับดวงตา เป็นโรคต้อกระจก หรือต้อหิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ หากต้องขับรถไปไหนมาไหน ทางที่ดีควรไปตรวจเช็คสุขภาพดวงตาและหูอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและการขับขี่


     3. ไม่เดินทางในเวลากลางคืน
     หากผู้สูงวัยต้องการที่จะขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ควรเลือกเวลาขับรถให้อยู่ในช่วงตอนกลางวันที่มีแสงสว่างมากเพียงพอที่จะช่วยให้มองเห็นทางและรถบนถนนได้อย่างชัดเจน ไม่ควรขับรถในตอนกลางคืนเพราะถนนจะมีความมืดโอกาสที่จะมองไม่เห็นรถที่สัญจรไปมามีสูงมาก และควรเลือกใช้เส้นทางที่คุ้นเคย วันเวลาที่มีรถสัญจรไม่เยอะมากนัก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับใคร จะช่วยทำให้การขับรถมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง


     4. วางแผนและนัดหมายล่วงหน้า
     ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง การวางแผนเส้นทางให้เรียบร้อยนับเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะถ้าหากเกิดการหลงขึ้นมาอาจต้องใช้แผนที่ซึ่งมีความยุ่งยากสูง และหากต้องใช้ระบบ GPS คอยนำทางก็ควรตั้งจุดหมายปลายทางที่จะไปให้พร้อมก่อนการเดินทางทุกครั้ง เพื่อความแม่นยำในการเดินทาง ที่สำคัญในการขับรถทุกครั้งไม่ควรเพลิดเพลินกับการกินขนม หรือเล่นโทรศัพท์เพราะจะทำให้หลุดโฟกัสจากเส้นทางที่ต้องเดินทางได้


     5. ฝึกขับบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
เพื่อการเพิ่มสกิลและความสามารถในการขับขี่ที่ดีมากขึ้น การเรียนขับรถอีกครั้งก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยให้การขับรถของผู้สูงอายุพัฒนา และยังได้อัพเดตในเรื่องของกฎจราจรใหม่ๆ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย หรือใครที่ไม่สะดวกที่จะเรียนใหม่ก็สามารถนำรถที่ใช้ขับอยู่ทุกวันมาฝึกฝน โดยขับในที่โล่งไม่วุ่นวาย หมั่นฝึกเลี้ยว จับพวงมาลัย เข้าโค้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับบนถนนจริง

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ