ยุคน้ำมันแพง ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน มีเงินเหลือเก็บ

ยุคน้ำมันแพง ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน มีเงินเหลือเก็บ
ยุคน้ำมันแพง ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน มีเงินเหลือเก็บ

5 วิธีขับรถอย่างไร ให้ประหยัดน้ำมันได้ดีที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางไปไหนมาไหนในประเทศไทยจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ อาจทำให้การเดินทางติดขัดได้ แต่การจะขับรถไปที่ต่างๆ ก็ย่อมมีค่าใช้จ่าย นั่นก็คือการเติมน้ำมัน ยิ่งในปัจจุบันที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้รถทุกคนต้องวางแผนการเดินทาง และหาวิธีเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงมีเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้รถทุกคนขับรถประหยัดน้ำมันและมีเงินเหลือเก็บ ในสภาวะที่ราคาน้ำมันแพงขนาดนี้ จะมีวิธีขับรถประหยัดน้ำมันแบบไหนบ้างไปดูกัน
 

วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน

วิธีประหยัดน้ำมันในการขับรถ

1.รักษาความเร็วของรถให้คงที่
เชื่อว่าในปัจจุบันยังมีคนที่มีชุดความคิดที่ว่า การขับรถช้าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น แต่ความจริงแล้วการเผาผลาญเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอยู่ที่ช่วงความเร็ว 80 กม./ชม. ซึ่งตามหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว การขับรถด้วยความเร็วที่มากเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อรักษาโมเมนตัมของรถเอาไว้ ดังนั้นหากอยากขับรถให้ประหยัดน้ำมัน ควรขับรถด้วยความเร็วที่คงที่และสม่ำเสมอจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าการขับรถช้านั่นเอง รวมถึงการไม่เร่งความเร็วรถบ่อยๆ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 33% เลยทีเดียว

2.ชะลอแทนการเบรก
รู็หรือไม่ว่าการเหยียบเบรกกะทันหันจะส่งผลเสียต่อถังน้ำมันของรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถของเราจะต้องเปลี่ยนเกียร์เร็วกว่าอัตราที่จะประหยัดน้ำมัน ซึ่งการขับขี่รถด้วยความเร็วและเบรกอย่างหนัก จะทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงถึง 40 % เลยทีเดียว ดังนั้นระหว่างขับรถควรประเมินสถานการณ์รอบข้างตลอดเวลา เพื่อวางแผนการขับขี่อย่างปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะได้สามารถชะลอความเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังเป็นการรักษาสภาพของล้อยางและผ้าเบรกไม่ให้สึกหรอเร็ว ช่วยให้ประหยัดค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมไปในตัวอีกด้วย

ไม่บรรทุกของหนักเกินไป เพื่อประหยัดน้ำมัน

3.นำสัมภาระที่ไม่จำเป็นออก
ผู้ใช้รถทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่า การขนสัมภาระหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากบนรถ จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกด้วย เช่นเดียวกับกรณีบรรทุกสิ่งของไว้บนหลังคารถ เพราะจะทำให้เกิดแรงต้านลม ทำให้รถต้องใช้พลังงานมากกว่าเดิมเพื่อให้รถสามารถวิ่งด้วยความเร็วปกติได้ หากอยากขับรถให้ประหยัดน้ำมัน เราขอแนะนำว่าให้ขนสัมภาระเท่าที่จำเป็นจะดีกว่า และไม่ควรบรรทุกสิ่งของบนหลังคารถโดยไม่จำเป็น ไม่อย่างนั้นแทนที่จะได้ประหยัดน้ำมันคุณอาจจะต้องเสียเงินกับค่าน้ำมันมากกว่าเดิม

ตรวจเช็คลมยาง เพื่อประหยัดน้ำมัน

4.เช็กลมยาง
การตรวจเช็กสภาพลมยางของล้อรถเป็นสิ่งที่ควรทำสม่ำเสมอ ซึ่งการตรวจเช็กสภาพลมยางและการเติมลมยางที่เหมาะสม นอกจากช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้ขับรถประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น เพราะหากล้อมีลมยางที่อ่อนตัว จะทำให้ยางเกิดการเสียดทานกับพื้นถนน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักเพื่อจะส่งกำลังไปกับการหมุนล้อมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันนั่นเอง

เช็คสภาพรถประจำปีทุกครั้ง เพื่อประหยัดน้ำมัน

5.ตรวจเช็กสภาพรถประจำปี
การเอาใจใส่รถคู่ใจด้วยการตรวจเช็กสภาพรถประจำปีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ หัวเทียน ฯลฯ นอกจากจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ ภายในรถแล้ว ยังส่งผลต่ออัตราการประหยัดน้ำมันอีกด้วย เนื่องจากรถจะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดเงินและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


เป็นยังไงกันบ้างกับเทคนิคขับรถประหยัดน้ำมันที่ทางเรานำมาฝาก หวังว่าจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถขับรถให้ประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้นกันนะครับ ซึ่งเทคนิคที่เรานำมาฝากนั้นนอกจากจะช่วยให้ขับรถประหยัดน้ำมันแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ รวมถึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรม เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474

 

 

อ่านบทความอื่นๆ