10 ที่เที่ยวสวยตะลึงในไทย ปักหมุดไว้ ปีใหม่นี้ไปตะลุยกัน
ใกล้เข้ามาแล้วกับช่วงเทศกาลปีใหม่ ใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวไหนในวันหยุดยาว จะวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศก็ดูจะไกลเกินไป วันนี้วิริยะประกันภัยมีไอเดียดีๆ มานำเสนอกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสวยตะลึงในประเทศไทยมาฝากกัน แต่ละที่สวยไม่แพ้ต่างประเทศแน่นอนยิ่งอากาศแบบนี้ด้วยแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปดูกันเลย
ดอยอินทนนท์
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ อากาศจะหนาวเย็นทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ได้มากที่สุด กิจกรรมที่สามารถทำได้บนดอยอินทนนท์นอกจากชมทะเลหมอกแล้ว ยังสามารถไหว้พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ ชมสวนดอกไม้ หรือจะดูนกประจำถิ่นและนกอพยพที่สามารถพบได้บนยอดดอย และยังมีหอดูดาวขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ
ตั้งอยู่ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ ถ้าไปดูดอกบัวตองแล้วอยากเห็นวิวกว้างๆ สามารถขึ้นไปที่จุดชมวิวที่จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวเพื่อที่จะชมดอกบัวตองได้รอบ 360 องศา และยังสามารถกางเต็นท์ ได้ที่จุดบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพัก มีทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และลานจอดรถไว้อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน อุทยานนี้เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานนัก เป็นสถานที่ที่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี เพราะสภาพอากาศในแต่ละฤดูจะทำให้อุทยานมีความแตกต่างกันไป เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงไหลของอุทยานแห่งชาติขุนสถานเลยก็ว่าได้ หากใครอยากไปชมดอกนางพญาเสือโคร่ง แนะนำให้ไปช่วงกลาง-ปลายเดือนมกราคม เพราะเป็นช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานเต็มที่สีชมพูสวยงามพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนแน่นอน
ภูลังกา
ตั้งอยู่ที่ อ.ปง จ.พะเยา ภูลังกาเป็นที่เที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน ด้วยสภาพภูมิอากาศและบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นที่มีสีทองอร่ามสวยงามแล้ว ตกกลางคืนก็จะเป็นเวลาออกล่าทางช้างเผือก ซึ่งภูลังกาสามารถเห็นทางช้างเผือกได้อย่างชัดเจน และท้องฟ้าในตอนกลางคืนจะเต็มไปหมู่ดาวส่องแสงระยิบระยับเต็มไปหมด ทำให้ไม่อาจหลับตานอนได้เพราะอาจจะทำให้พลาดช่วงเวลาดีๆ นี้ไป ส่วนช่วงเช้าก็จะได้พบกับทะเหมอกที่กว้างยาวสุดสายตา สลับกับพระอาทิตย์ขึ้นสีสวยสะดุดตาอีกด้วย
ดอยตาปัง
ตั้งอยู่ที่ อ.สวี จ.ชุมพร ทะเลหมอกจากแดนใต้สามารถชมได้ทั้งปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันด้วย หากวันไหนไม่สามารถสัมผัสกับทะเลหมอกได้ก็ยังมีวิวทิวทัศน์ 360 องศา คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ จุดเด่นของดอยตาปังนอกจากจะมีทะเลหมอกแล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือ การชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าที่แสงแดดอ่อนๆ รอดผ่านช่องของเขาทะลุ กระทบกับม่านหมอกที่รออยู่ด้านล่าง ใครที่สนใจไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอดหน้าหนาวนี้ต้องไม่พลาด
เขาค้อ
ตั้งอยู่ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ แหล่งโอโซนธรรมชาติชั้นดี ทะเลหมอกสวยขวัญใจนักท่องเที่ยว และยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกเพียบไม่ว่าจะเป็นทุ่งกังหันลม วัดพระธาตุผ่าซ่อนแก้ว จุดชมวิวทะเลหมอกตรงไปรษณีย์เขาค้อ และคาเฟ่อีกมากมาย เขาค้อเหมาะกับคนที่มีเวลาเที่ยวน้อยๆ เพราะใน1วัน สามารถเที่ยวได้ครบทั้งหมด ใครอยากสัมผัสบรรยากาศดีๆ เดินทางไม่ไกล เขาค้อคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีทีเดียว
ภูกระดึง
ตั้งอยู่ที่ อ.ภูกระดึง จ.เลย สถานที่ที่ครั้งนึงในชีวิตต้องไปพิชิตให้ได้ ด้วยความสูงถึง 1,316 เมตร และสภาพอากาศที่เย็นตลอดปี บางปีอาจต่ำสุดถึง 0 องศาเลยทีเดียว จึงทำให้นักท่องเที่ยวอยากที่จะมาสัมผัสบรรยากาศและพิชิตยอดภูนี้ดูซักครั้ง ระหว่างทางก็เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด สร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย ส่วนจุดเช็คอินสุดฮิตคืการได้ถ่ายรูปคู่กับป้าย ครั้งนึงในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึงนั่นเอง
ปางอุ๋ง
หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ดินแดนสุดโรแมนติกของภาคเหนือ มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ประดับไปด้วยวิวทิวสนปลูกเรียงรายสวยงาม จุดที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ไปแล้วต้องกลับไปอีกคือ ภาพทะเลหมอกที่ลอยอยู่เหนือทะสาป กับอากาศที่หนาวเหน็บ ยิ่งตกตอนเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดินยิ่งทำให้ปางอุ๋ง เป็นสถานที่ในใจของใครหลายๆ คน จนต้องขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”
ดอยหลวงเชียงดาว
ตั้งอยู่ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สวรรค์ของนักดูดาว วิวทิวทัศน์ทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นสวยงามมาก ไม่ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นหรือตกก็สามารถสะกดใจนักท่องเที่ยวได้อยู่หมัด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และทั่วทั้งพื้นที่มียอดเขาเล็กสลับใหญ่รายล้อม แถมยังปกคลุมไปด้วยหมอกจางๆ อีกด้วย และอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถพบได้ที่ดอยหลวงเชียงดาวก็คือพรรณไม้นานาชนิดที่พบได้แค่ที่นี่เท่านั้น เช่น ค้อเชียงดาว สิงโตเชียงดาว สิงโตขนตาขาว สิงโตตาแดง สิงโตเล็บเหยี่ยว และอีกมากมาย จึงทำให้ที่นี่อยู่ในใจนักท่องเที่ยวหลายๆ คนไปเป็นที่เรียบร้อย
เมืองโบราณ
ทางลัดเดียวที่จะเที่ยวทั่วไทยได้ในหนึ่งวัน คือต้องมาที่เมืองโบราณแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ เดินทางง่าย ปีใหม่นี้ใครมีเวลาน้อย ขี้เกียจเบียดคนออกไปเที่ยวต่างจังหวัด เราขอเสนอที่นี่ ที่เดียวจบ เที่ยวครบทั่วไทย เหมือนได้ไปเที่ยวทุกภาค ที่นี่ได้รวบรวมปราสาท วัง วัด และงานประติมากรรมต่างๆ จากทั่วทุกที่ทั่วไทยมาให้ได้ดู นอกจากนี้ยังมีตลาดน้ำและตลาดบกจำลองวิถีชีวิตโบราณ มีอาหารคาวหวานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งเราต้องไปแลกเงินรูสมัยโบราณมาจ่าย บวกกับการแต่งตัวชุดไทยของคนขายด้วยแล้ว ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยออเจ้ากันเลยทีเดียว นับเป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ที่ให้คุณและครอบครัวได้เดินเที่ยวพักผ่อนกันได้ทั้งวัน
ใครที่กำลังจะออกเดินทางและมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474