ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

นอกจากการดูแลรถยนต์และทำประกันรถยนต์ให้กับรถคู่ใจแล้ว การต่อภาษีรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เจ้าของรถจะต้องทำเป็นประจำทุกปี เนื่องจากการต่อภาษีรถยนต์นั้นมีผลกับกฎหมาย รวมถึงเรื่องของ พรบ. รถยนต์และประกันรถยนต์ต่างๆ ด้วย หากผู้ใช้รถคนไหนที่ยังไม่รู้ว่าการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 นี้ ต้องทำอย่างไรและต้องเตรียมอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมเอาไว้ในบทความนี้ให้แล้ว ไปดูกันได้เลย

ภาษีรถยนต์คืออะไร

ภาษีรถยนต์คืออะไร?

ภาษีรถยนต์ คือ ภาษีที่เจ้าของรถทุกคนต้องจ่าย เพื่อได้ป้ายสี่เหลี่ยมมาติดที่ด้านหน้ารถ เป็นการยืนยันว่าได้เสียภาษีรถยนต์ประจำปีนั้นๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ข้อกฎหมายได้กำหนดเอาไว้นั่นเอง

 

ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้

 

  1. รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี

  2. รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี

  3. รถยนต์ รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรก

เอกสารที่ใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566

 

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง หรือสำเนาก็ได้)

  • หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ จากสถานตรวจสอบสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ในกรณีที่รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง หรือรถบรรทุกส่วนบุคคลที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป

  • พรบ. รถยนต์หรือข้อมูลประกันภัยภาคบังคับ ที่มีวันสิ้นอายุความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 90 วัน

เอกสารที่ใช้ต่อภาษีรถยนต์มีอะไรบ้าง

ช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566

สำหรับช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้

  1. ต่อภาษีรถยนต์ผ่านเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก e-Service 

  2. แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax สามารถโหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งระบบ IOS และ Android

ขั้นตอนต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก e-Service มีขั้นตอนดังนี้

  1. เข้าเว็บไซต์กรมขนส่งทางบก แล้วเลือกบริการ “ลงทะเบียนสมาชิกใหม่” จากนั้นให้กรอกข้อมูลที่ให้ระบุให้ครบถ้วน แล้วกดปุ่ม “บันทึก”

  2. หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย ให้ทำการ “Log in” เข้าสู่ระบบ

  3. จากนั้นเลือกหัวข้อ “ชำระภาษีรถยนต์ประจำปี” ในเมนูย่อยเลือก “ชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต” และกดปุ่ม “ลงทะเบียนรถ”

  4. เมื่อระบุข้อมูลรถครบถ้วนแล้ว ให้ทำการกดบันทึก

  5. ระบบจะแสดงข้อมูลรถที่ตารางด้านล่าง ให้เรากดปุ่ม  “ยื่นชำระภาษี” จากนั้นระบุข้อมูลเกี่ยวกับรถให้ครบถ้วน แล้วกดปุ่ม “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร”

  6. ให้เจ้าของรถระบุที่อยู่จัดส่งเอกสารให้ถูกต้อง แล้วกดปุ่ม “เลือกวิธีการชำระเงิน” โดยจะมีช่องทางชำระเงินหลายรูปแบบ

  7. ตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียดอีกครั้ง หากถูกต้องสมบูรณ์ครบถ้วนกดปุ่ม “ยืนยัน” ก็เป็นอันเสร็จ

 

ต่อภาษีออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax

หลังจากที่โหลดแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการกรอกข้อมูลติดต่อให้ครบถ้วน แล้วจึงกดปุ่ม “กดเพื่อรับรหัส OTP” โดยรหัสดังกล่าวจะถูกส่งไปยังอีเมลที่ระบุเอาไว้ตอนแรก เมื่อได้รับรหัส OTP แล้ว ให้ทำการยืนยันและสร้างรหัสผ่าน 6 หลัก หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้มากดปุ่ม “ชำระภาษีรถ” จากนั้นเลือกรูปแบบชำระภาษี พร้อมกับกรอกรหัสบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขทะเบียนนิติบุคคลผู้ครอบครองรถ เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้เลือกประเภทรถที่ต้องการชำระ  และกรอกทะเบียนรถ พร้อมกับข้อมูล พรบ. รถ หลังจากที่กรอกเสร็จ ให้มาเลือกการรับเครื่องหมายการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีทางไปรษณีย์ หรือจะเป็น Kiosk (เฉพาะเขตในกรุงเทพฯ เท่านั้น) ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ขั้นตอนการจ่ายเงิน ในการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

สำหรับการจ่ายเงินในการต่อภาษีออนไลน์ สามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งหากใครที่ทำการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ก็สามารถชำระผ่านรูปแบบการหักเงินในบัญชีเงินฝากของทางธนาคารที่เข้าร่วมรายการ หรือจะชำระผ่านบัตรเครดิต เดบิต ที่มีสัญลักษณ์ Visa, Master Card ก็ได้เช่นกัน หรือหากไม่สะดวกก็สามารถไปชำระได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมรายการ แต่หากต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ให้ทำการจ่ายผ่าน QR Code หรือแอป SCB Easy App ของธนาคารไทยพาณิชย์ได้เลย

**หมายเหตุ : เจ้าของรถยนต์สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษีออนไลน์ และการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาการยื่นชำระได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี / เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน”
 

ต่อภาษีต้องตรวจสภาพรถหรือไม่
 

ต่อภาษีต้องตรวจสภาพรถหรือไม่?

การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี จะต้องตรวจสภาพรถทุกครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วรถที่จะทำการชำระภาษีจะต้องไม่มียอดค้างชำระเกิน 1 ปี ซึ่งหากเกิน 1 ปี จะต้องทำการตรวจสภาพรถใหม่และต้องยื่นชำระภาษีที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ขณะเดียวกันหากรถยนต์ของคุณมีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป และเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะต้องทำการตรวจสภาพรถทุกปี ก่อนที่จะทำการชำระภาษีเสมอ ทั้งนี้รถยนต์ที่มีการติดตั้งแก๊ส จะต้องตรวจสภาพรถให้ถูกต้องตามประกาศที่กรมการขนส่งทางบกระบุเอาไว้ พร้อมทั้งต้องยื่นชำระภาษีประจำปีที่กรมการขนส่งทางบกเท่านั้น


ทั้งหมดนี้คือการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 ซึ่งสามารถยื่นชำระภาษีได้ทั้งที่กรมการขนส่งทางบก และต่อภาษีออนไลน์ผ่านทางแอปพลิเคชันตามข้อมูลที่ทางเรานำมาฝาก เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถเข้าไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชม. ไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา หากใครที่ทำการต่อภาษีรถยนต์ปี 2566 แล้วก็อย่าลืมต่อ พรบ. รถยนต์ และประกันรถยนต์กันด้วย เพื่อความอุ่นใจและรับความคุ้มครอง สิทธิต่างๆ ของผู้เอาประกันเอง

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ