เช็กสัญญาณแบตเตอรี่รถเสื่อม รู้ไว้ก่อนรถดับกลางทาง!

เช็กสัญญาณแบตเตอรี่รถเสื่อม รู้ไว้ก่อนรถดับกลางทาง!
เช็กสัญญาณแบตเตอรี่รถเสื่อม รู้ไว้ก่อนรถดับกลางทาง!

 

แบตเตอรี่รถ เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สตาร์ทรถได้ ซึ่งโดยปกติแล้วตัวแบตเตอรี่จะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแล หากคุณใช้รถยนต์เป็นประจำ การที่แบตเตอรี่รถเสื่อมก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าแบตเตอรี่รถเสื่อมหรือไม่? มาหาคำตอบและสัญญาณเตือนว่าถ้าแบตเตอรี่รถเสื่อมจะมีอาการยังไง พร้อมวิธีป้องกันแบตเตอรี่เสื่อมไปพร้อมกัน

 

สัญญาณแบตเตอรี่รถเสื่อม ที่สังเกตได้ง่ายๆ ขณะขับรถ

1.รถสตาร์ทติดยาก

เมื่อจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานและกลับมาสตาร์ทรถอีกครั้ง หากได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลากยาวกว่าปกติที่เคยได้ยิน ให้สันนิษฐานได้เลยว่าแบตเตอรี่รถอาจเสื่อมสภาพ ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้ รวมถึงการจ่ายไฟไปยังส่วนอื่นๆ ของรถน้อยลง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานช้ากว่าปกตินั่นเอง

ระบบไฟฟ้าภายในรถทำงานผิดปกติ เป็นหนึ่งในสาเหตุอาการแบตเสื่อมได้

 

2.ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ

หนึ่งสัญญาณที่สามารถสังเกตได้หากแบตเตอรี่รถเสื่อม คือการทำงานที่ผิดปกติของระบบไฟฟ้าภายในรถ เช่น การเปิด - ปิดกระจกไฟฟ้ามีอาการฝืดและมีการเคลื่อนที่ช้ากว่าเดิม หรือจะเป็นระบบส่องสว่างที่มีแสงน้อยกว่าปกติในเวลากลางคืน เมื่อสังเกตเห็นอาการดังกล่าวนี้ให้ผู้ใช้รถคิดไว้เลยว่าแบตเตอรี่รถเสื่อม ทำให้ส่งไฟฟ้าไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เช่นเดียวกับการล็อกประตูรถที่ทำงานได้ช้ากว่าปกติ

3.เสียงแตรรถเบาลงกว่าเดิม

ในกรณีนี้คุณสามารถทดลองได้ด้วยการบีบแตรเพื่อฟังเสียงของแตรรถยนต์ หากรู้สึกว่าเสียงแตรของรถคุณเบาลงกว่าเดิม นั่นหมายความว่า กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถที่ส่งมาเลี้ยงนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลไปยังการขับขี่บนท้องถนนของคุณที่อาจไม่ปลอดภัยอีกด้วย

 

วิธีป้องกันแบตเตอรี่รถเสื่อม

วิธีป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ

 

1.ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่รถ

การที่แบตเตอรี่รถมีสิ่งสกปรกหรือคราบสกปรกเกาะอยู่ อาจส่งผลให้การจ่ายไฟฟ้าของแบตเตอรี่รถแย่ลงได้ หรืออาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพก่อนเวลาจนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ดังนั้น จึงควรหมั่นเช็กสภาพแบตเตอรี่รถและทำความสะอาดอยู่เสมอ ด้วยการเทน้ำร้อน, สารป้องกันการกัดกร่อน, น้ำโซดาหรือน้ำอัดลม อย่างใดอย่างหนึ่งลงบนขั้วแบตเตอรี่รถ พร้อมทั้งใช้แปรงขัดคราบที่เกาะอยู่บริเวณขั้วแบตเตอรี่รถและเช็ดด้วยผ้าแห้งสนิท เพียงแค่นี้ก็จะทำให้แบตเตอรี่ของคุณไม่มีคราบสิ่งสกปรกมาเกาะแล้ว

2.เช็กน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถ

น้ำกลั่นเป็นตัวนำไฟฟ้าที่สำคัญในแบตเตอรี่รถ ดังนั้นการตรวจสอบน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะช่วยให้แบตเตอรี่รถสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โดยควรเลือกใช้น้ำกลั่นมาตรฐานมาเติมและควรหลีกเลี่ยงน้ำเปล่าหรือน้ำกรด เพราะจะทำให้แบตเตอรี่รถทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมอีกด้วย

ลองสตาร์ทรถบ่อยๆ จะช่วยป้องกันแบตเสื่อมได้

 

3.หมั่นสตาร์ทรถ

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการจอดรถทิ้งไว้นานนั้นส่งผลต่อแบตเตอรี่รถโดยตรง เพราะแบตเตอรี่จะคายไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา ยิ่งจอดไว้นานเท่าไรแบตเตอรี่จะยิ่งอ่อนและหมดเร็ว ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยที่ไม่ใช้งานรถเลยจะทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อม จนต้องเสียเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่จึงจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดหากไม่อยากให้แบตเตอรี่รถเสื่อม คือการสตาร์ทรถและนำออกไปขับบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเติมไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถ และยังเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถเสื่อม อีกทั้งยืดอายุการใช้งานให้กับแบเตอรี่อีกด้วย

4.ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่

ในกรณีที่ใช้เครื่องชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่รถเพื่อเติมประจุไฟฟ้าให้เต็มอยู่ตลอด เนื่องจากไม่ได้มีการใช้งานรถเป็นเวลานาน จะเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับแบตเตอรี่รถได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ หรือมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นาน โดยการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะต้องเลือกเครื่องชาร์จไฟที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน เพราะหากคุณใช้เครื่องชาร์จไฟทั่วไปมาชาร์จแบตเตอรี่รถ อาจทำให้แบตเตอรี่รถเสื่อมสภาพได้นั่นเอง

ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อช่วยยืดอายุแบตได้

ถึงแม้ว่าอาการแบตเตอรี่รถเสื่อมจะไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่หากคุณขับรถอยู่และสังเกตเห็นอาการที่อาจบ่งบอกได้ว่าแบตเตอรี่รถเสื่อม ให้รีบทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถทันที ก่อนที่จะสร้างปัญหาให้กับรถจนคุณปวดหัว เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ซึ่งอาการแบตเตอรี่รถเสื่อมนั้นไม่ช้าก็เร็ว รถคู่ใจของคุณจะต้องพบเจอปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน ทางที่ดีก่อนออกเดินทาง หรือเมื่อครบกำหนดที่ต้องตรวจสภาพรถยนต์แล้ว ให้รีบนำเข้าศูนย์หรืออู่ที่ไว้ใจได้ทันที เพื่อความปลอดภัยและอุ่นใจในการขับขี่นั่นเอง

 

 

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ