ขึ้นชื่อว่ารถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงหรือผ่านการใช้งานมาแล้ว เมื่อรถของเรามีปัญหาแม้จะเรื่องเล็กน้อยที่เกิดจากการใช้งานหรือเกิดอุบัติเหตุมา แน่นอนว่าเราต้องมองหาอู่ซ่อมรถยนต์เป็นที่พึ่ง ซึ่งอู่ซ่อมรถยนต์ในประเทศไทยมีอยู่มากมาย แต่ละที่ก็มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันออกไป ทั้งอู่ซ่อมหม้อน้ำ อู่ซ่อมกระจก อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไป ฯลฯ การหาอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐานจึงเป็นเรื่องหนักใจสำหรับผู้ใช้รถยนต์ทุกคน เนื่องจากอู่ซ่อมรถใกล้บ้านอาจไม่ได้ตอบโจทย์เสมอไป วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ในการเช็กว่าอู่ซ่อมรถยนต์
ที่ดีและได้มาตรฐานต้องดูจากอะไรกัน

ขั้นตอนการเลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่ดี ต้องดูอย่างไร?
 

1.หาข้อมูลเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถยนต์

การจะหาอู่ซ่อมรถยนต์ที่ดี ได้มาตรฐาน และสามารถไว้ใจได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถยนต์อยู่เสมอในเรื่องของบริการที่ไม่เป็นธรรม โก่งราคาค่าซ่อมรถและปัญหาต่างๆ อีกมากมายที่คาดไม่ถึง ดังนั้นจึงควรต้องมีแหล่งข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถยนต์ที่ดีพร้อมก่อนที่จะนำรถไปซ่อม ซึ่งอาจเริ่มจากการสอบถามคนใกล้ตัวอย่างครอบครัวหรือเพื่อนบ้าน ว่ามีอู่ซ่อมรถยนต์ที่ไหนบริการดีบ้าง จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการสอบถามจากผู้ใช้งานจริงจะได้ข้อมูลที่เข้าถึงง่ายและเชื่อถือได้ 

อีกทางหนึ่งคือการเสิร์ชบนอินเทอร์เน็ต โดยการหารีวิวจากคนที่เคยไปใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์นั้นๆ มาแล้ว ซึ่งก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราอาจจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาเปรียบเทียบ และไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะนำรถไปซ่อมยังอู่ดังกล่าว

2.เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

หลังจากหาข้อมูลเกี่ยวกับอู่ซ่อมรถยนต์แล้ว สิ่งที่ต้องดูต่อมาคือ ความน่าเชื่อถือ มาตรฐาน ความพร้อมและความปลอดภัยของอู่ซ่อมรถยนต์ที่เลือกใช้บริการ โดยอู่ซ่อมรถยนต์ที่ดี ได้มาตรฐาน ควรมีพื้นที่ให้บริการเพียงพอต่อการรองรับรถ ไม่ว่าจะเป็นส่วนรอซ่อมและส่วนงานดำเนินการซ่อม เพราะเจ้าของรถทุกคนคงไม่อยากให้รถคันโปรดของตนเองจอดตากแดดระหว่างรอการซ่อม หรือจอดริมถนนที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ซึ่งหากอู่ซ่อมรถยนต์ที่เราเลือกได้มาตรฐาน และมีพื้นที่รองรับรถอย่างน้อยก็สร้างความมั่นใจให้เราได้ว่า รถยนต์คันโปรดของเราจะได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งระหว่างรอซ่อมและตอนดำเนินการซ่อมนั่นเอง ยิ่งถ้าเป็นอู่ที่ได้รับรองจาก คปภ. ด้วยก็ยิ่งทำให้เราสามารถไว้วางใจได้ในระดับหนึ่งเลยว่า อู่ซ่อมรถยนต์นี้ตรงตามมาตรฐานอย่างแน่นอน

3.เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีราคามาตรฐาน

สิ่งสำคัญที่ต้องเช็กก่อนนำรถยนต์เข้าไปซ่อมที่อู่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ราคาค่าซ่อมรถยนต์ เนื่องจากมีหลายๆ เคสที่ต้องจ่ายค่าซ่อมในราคาแพงโดยที่ไม่รู้รายละเอียด ดังนั้นจึงควรสอบถามราคาให้ชัดเจน หากยังไม่แน่ใจว่าราคาอู่ซ่อมรถยนต์ที่ทำอยู่ได้มาตรฐานหรือไม่ เบื้องต้นให้ลองเปรียบเทียบราคากับอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้เคียงหรือที่อื่นๆ ดู เพื่อจะได้ไม่โดนอู่ซ่อมรถยนต์เอาเปรียบได้ 

ทั้งนี้ควรระบุให้ชัดเจนว่ามีอะไรเสียบ้าง ต้องตรวจเช็กจุดไหน ซ่อมตำแหน่งไหน เพราะทางอู่ซ่อมจะทำการซ่อมตามที่เราระบุในเอกสารเท่านั้น และเพื่อเป็นการป้องกันการโดนเอาเปรียบราคาจากอู่ซ่อมรถยนต์ ควรรู้ราคาคร่าวๆ เอาไว้ด้วยจะดีที่สุด

4.เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีการรับประกันหลังการซ่อม

เชื่อว่ามีหลายคนที่เคยเจอเหตุการณ์ซ่อมรถไปแล้วต้องกลับมาซ่อมใหม่ เกิดอาการเดิมซ้ำๆ และอู่ซ่อมรถยนต์ไม่รับผิดชอบ จนทำให้เจ้าของรถหลายคนปวดหัวกับปัญหาที่เกิดขึ้นไปตามๆ กัน เพราะนอกจากจะต้องหาอู่ซ่อมรถยนต์ใหม่แล้ว ยังต้องเสียทั้งเวลาและเงินด้วย ทางที่ดีควรเลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐานและมีบริการที่ดี เช่น การดูแลลูกค้าระหว่างการซ่อมรถยนต์ การรับประกันหลังรถซ่อมเสร็จ การบริการหลังการขายและมีการติดต่อกับลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อรายงานการดำเนินการซ่อมรถให้ได้รู้ รวมถึงมีบริการที่รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เพียงแค่นี้ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจกับเจ้าของรถได้แล้ว

5.เลือกอู่ซ่อมรถยนต์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ

อู่ซ่อมรถยนต์ที่ดีควรจะมีช่างที่มีประสบการณ์ทำงานมาอย่างยาวนาน มีพนักงานเพียงพอที่จะให้บริการ รวมถึงช่างที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านต่างๆ เช่น ช่างซ่อมเครื่องยนต์, ช่างอะไหล่, ช่างสี, ช่างเคลือบ ฯลฯ เป็นต้น โดยเราสามารถสังเกตได้ว่าอู่ซ่อมรถยนต์ไหนที่มีช่างมากประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ จากการตอบคำถามของหัวหน้าช่าง หรือพาคนที่มีความรู้เรื่องรถหรือเคยซ่อมรถบ่อยๆ ไปด้วย เพื่อช่วยตรวจสอบจากการพูดคุยว่า อู่ซ่อมรถยนต์ที่เราเลือกได้มาตรฐาน มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจริงหรือไม่ เพราะความเป็นมืออาชีพของช่างเหล่านี้จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า จะได้รับบริการที่ดีและมีคุณภาพทุกขั้นตอนระหว่างซ่อมรถยนต์ที่อู่แห่งนี้
 

เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐานและมีบริการที่ดีเป็นอย่างไร ดังนั้นก่อนจะเลือกใช้บริการอู่ซ่อมรถยนต์ควรตรวจเช็กให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ไม่ต้องเสียทั้งเงินและเวลาในการไปหาอู่ซ่อมรถยนต์ใหม่ นอกจากนี้ควรจะทำประกันรถยนต์เอาไว้ด้วย เพื่อรับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์นั่นเอง

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474