อัปเดต! ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ อะไรที่คุ้มครองและไม่คุ้มครอง?

อัปเดต! ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ อะไรที่คุ้มครองและไม่คุ้มครอง?
อัปเดต! ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ อะไรที่คุ้มครองและไม่คุ้มครอง?

ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกใหม่ที่เริ่มได้รับความสนใจในการใช้งานมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าออกมาให้กับผู้ใช้รถได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นก็คือประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ ที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประกาศอย่างเป็นทางการ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งก็มีเงื่อนไขและความคุ้มครองที่แตกต่างไปจากเดิมไม่น้อย แต่เชื่อว่าข้อแรกที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าอยากรู้คือ ประกันยังคุ้มครองแบตเตอรี่รถไฟฟ้าเหมือนเดิมหรือไม่ และอะไรที่ประกันฉบับใหม่ไม่คุ้มครอง? ไปหาคำตอบพร้อมกัน

 

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ มีอะไรเปลี่ยนบ้าง?

 

1.การระบุผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า

ก่อนหน้านี้ประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้สูงสุด 2 คน ซึ่งหากเลือกไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ก็ได้เช่นกัน แต่ในประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ที่ประกาศออกมา ได้มีการกำหนดให้ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ โดยสามารถเลือกระบุชื่อผู้เอาประกันได้สูงสุดถึง 5 ชื่อ แต่หากให้ผู้อื่นซึ่งไม่ถูกระบุในรายชื่อยืมขับขี่และเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้เอาประกันอาจต้องเสีย “ค่าเสียหายส่วนแรก” ในกรณีที่ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเป็นฝ่ายผิด แต่ทั้งนี้ยังคงได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์อยู่ แต่หากเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก

นอกจากจากนี้ การต่อประกันรถยนต์ไฟฟ้าในฉบับใหม่นี้ ทางบริษัทประกันภัยที่ทำอยู่จะมีการตรวจสอบระดับพฤติกรรมการขับขี่ส่วนบุคคลของรายชื่อที่ถูกระบุในกรมธรรม์ด้วย เพื่อทำการประเมินและพิจารณาค่าเบี้ยประกันในปีต่อๆ ไป ซึ่งหากผู้เอาประกันและรายชื่อที่อยู่ในกรมธรรม์มีประวัติการขับขี่ดี ผู้เอาประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสที่จะได้รับส่วนลดประกันรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วย ซึ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประวัติการขับขี่ดีจะได้ส่วนลดสูงสุดถึง 40% และส่วนลดพฤติกรรมการขับขี่อีก 40% 

 

2.ระบบเก็บข้อมูลและตรวจสอบพฤติกรรม

นอกจากเรื่องของความคุ้มครองแล้ว ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ยังมีการเก็บข้อมูลและตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่ เพื่อนำมาคำนวณเบี้ยประกันประกันรถยนต์ไฟฟ้าในปีต่อไป โดยระบบจะทำการเก็บประวัติการขับขี่จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งหากคุณขับรถยนต์ไฟฟ้าและเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ในส่วนนี้

ระบบก็จะเก็บข้อมูลประวัติเป็นรายบุคคลด้วยเช่นกัน

ไม่เพียงแค่การเก็บข้อมูลและตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย ซึ่งหากผู้เอาประกันมีประวัติการขับขี่ดี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ก็จะได้รับการประเมินพฤติกรรมการขับขี่ในระดับที่สูงขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามหากเกิดอุบัติเหตุก็จะถูกลดระดับกลับมายังจุดเริ่มต้นด้วยเช่นกัน โดยการประเมินพฤติกรรมการขับขี่นี้จะถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ทุกครั้ง และจะส่งผลต่อส่วนลดของประกันรถยนต์ไฟฟ้าในกรมธรรม์ถัดไป

 

ทั้งนี้หากผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ระบุชื่อในกรมธรรม์อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ระดับพฤติกรรมการขับขี่กลับไปยังจุดเริ่มต้นทุกครั้ง และหากกลับมาระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์อีกครั้งในการต่อประกันรถยนต์ไฟฟ้าในรอบถัดไป บริษัทประกันภัยที่ทำอยู่หรือบริษัทประกันภัยเจ้าใหม่ที่ทำประกันด้วยจะไม่ให้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน เพราะระดับพฤติกรรมการขับขี่ยังอยู่ในจุดเริ่มต้นนั่นเอง

 

3.ความคุ้มครองแบตเตอรี่

ในประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ได้มีการเพิ่มความคุ้มครองแบตเตอรี่เข้ามาด้วย โดยจะคำนวณค่าเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน ซึ่งในปีแรกจะให้ประกันแบตเตอรี่รถยนต์ 100% และจะกำหนดให้บริษัทประกันภัยคิดค่าเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน พร้อมกับความคุ้มครอง รวมถึงการชดใช้สินไหมด้วย โดยอัตราการชดเชยค่าสินไหมในประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่มีรายละเอียดดังนี้

 

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ความคุ้มครอง
ไม่เกิน 1 ปี 100%
ไม่เกิน 2 ปี 90%
ไม่เกิน 3 ปี 80%
ไม่เกิน 4 ปี 70%
ไม่เกิน 5 ปี 60%
มากกว่า 5 ปีขึ้นไป 50%

 

ทั้งนี้ กรรมสิทธิ์ของซากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจะตกเป็นของผู้เอาประกันกับบริษัทประกันตามสัดส่วนเดียวกันกับอัตราชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่

** ในกรณีที่มีการตกลงให้มีการจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนมา จะให้บริษัทดำเนินการจำหน่ายและจัดสรรจำนวนเงินที่ได้จากการจำหน่ายตามสัดส่วนข้างต้นให้กับผู้เอาประกันภัย

นอกจากนี้  กรณีณีที่รถยนต์ไฟฟ้าของผู้เอาประกันเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหาย หรืออาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ บริษัทประกันจะมีการพิจารณาเพื่ออนุมัติการเคลมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกัน อีกทั้งผู้เอาประกันจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วย ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่และมีค่าใช้จ่ายก็จะได้สิทธิประโยชน์ในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ความคุ้มครองแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าก็จะอยู่ที่ 90% ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องจ่ายอีก 10% ที่เหลือ และเมื่อบริษัทประกันภัยขายแบตเตอรี่ลูกเก่าได้ ผู้เอาประกันก็จะได้รับเงิน 10% คืนนั่นเอง

แต่ทั้งนี้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถซื้อประกันแบตรถไฟฟ้าเพิ่มได้นั้น จะต้องมีการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเกิน 1 ปีขึ้นไป ซึ่งหากทำประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว และบริษัทประกันมีการจ่ายชดใช้ค่าเสียหายที่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เรียบร้อยแล้ว สำนักงาน คปภ. มีการระบุเพิ่มเติมในชุดข้อมูลส่วนนี้เอาไว้ว่า ซากแบตเตอรี่ดังกล่าวจะถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทประกันทันที แต่เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เรียบร้อยแล้ว ผู้เอาประกันมีสิทธิ์ขอปรับทุนประกันใหม่ตามแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่เปลี่ยนได้ โดยสามารถติดต่อสอบถามเรื่องของทุนประกันรถยนต์ไฟฟ้าใหม่กับบริษัทประกันได้ทันที

 

**หมายเหตุ : การพิจารณาความคุ้มครองแบตเตอรี่และการกำหนดอายุการใช้งาน รวมถึงเงื่อนไขกรรมสิทธิ์ต่างๆ ของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด แนะนำว่าก่อนทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าควรสอบถามข้อมูลต่างๆ กับบริษัทประกันภัยจะดีที่สุด

4.คุ้มครองเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลแบบติดผนัง (Wall Charger)

สำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ ผู้เอาประกันสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับเครื่องชาร์จหรือขณะชาร์จ I’mแบตเตอรี่ โดยเบี้ยประกันจะอยู่ในสัดส่วนตั้งแต่ 0.035%-3.5% ของมูลค่าเครื่องชาร์จ หรือเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนด

 

ทั้งนี้ก่อนจะทำประกันรถยนต์ไฟฟ้า และซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมของเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ควรสอบถามบริษัทประกันภัยเรื่องความคุ้มครองและเงื่อนไขต่างๆ ให้ครบถ้วน เนื่องจากความคุ้มครองของอุปกรณ์รถยนต์ไฟฟ้าและความคุ้มครองในกรณีอื่นๆ จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางสำนักงาน คปภ. กำหนดนั่นเอง

 

สิ่งที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ ไม่ให้ความคุ้มครอง

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่นอกจากจะมีการปรับเปลี่ยน เพิ่มความคุ้มครองของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังเพิ่มในส่วนที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าไม่คุ้มครองเข้ามาด้วย ซึ่งสิ่งที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้าไม่ให้ความคุ้มครองมีดังนี้

- ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากปัจจัยภายนอก (Cyber Breach) ที่มีผลต่อระบบปฏิบัติการที่ใช้ควบคุมการทำงานของรถยนต์ (Software)

- ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคล ที่ไม่ได้มาจากโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนั้นๆ 

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีราคาเริ่มต้นเท่าไร

สำหรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 28,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไปถึง 10-20% โดยขึ้นอยู่กับความคุ้มครองและบริษัทประกันภัยที่เลือกทำด้วย ก่อนทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าจึงควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับประกันรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทประกันภัยที่สนใจให้ดี

 

จะเห็นได้ว่า ประกันรถยนต์ไฟฟ้าฉบับใหม่ที่สำนักงาน คปภ. ประกาศออกมามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เราจึงรวบรวมข้อมูลมาฝาก เพื่อให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าทุกคนได้ศึกษาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับบริษัทประกัน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการมากที่สุด

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ