ประกันภัยรถ EV ในปัจจุบัน VS ประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ แตกต่างกันอย่างไร?


ปฎิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน “รถยนต์ไฟฟ้า” ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐแล้ว ราคาน้ำมันที่ผันผวนอยู่ตลอด ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนหันมาเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น บริษัทประกันภัยจึงต้องออกแผนประกันภัยรถ EV เพื่อตอบโจทย์คนขับรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งล่าสุด คปภ. ได้มีประกาศเกี่ยวกับประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ ซึ่งประกันรถ EV ฉบับใหม่นี้จะแตกต่างจากประกันภัยรถ EV ในปัจจุบันอย่างไร เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกัน
ประกันภัยรถ EV ในปัจจุบันกับ ประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ ต่างกันอย่างไร?
รายละเอียดประกันภัยรถ EV ที่ขายอยู่ในปัจจุบันของบริษัทประกันภัย (ประเภท 1)
- ความคุ้มครองของประกัน : ให้ความคุ้มครองทุกภัย (All Risk) เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย ยกเว้นภัยที่เกิดจากสงครามและจราจล
- อัตราเบี้ยประกันภัย : ราคาเทียบเท่ากับประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไป
- การรับประกันของแบตเตอรี่รถ : จ่ายให้ตามจริง ไม่มีกำหนดค่าเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
- ระบุชื่อผู้ขับขี่ : สามารถเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ก็ได้ ซึ่งสามารถระบุได้สูงสุด 2 คน โดยจะได้รับส่วนลด 5-20% ตามช่วงอายุของผู้ขับขี่
- ส่วนลด/เพิ่มเบี้ยประกัน : ปรับตามประวัติการขับขี่
รายละเอียดประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ ปี 2567
- กำหนดค่าเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าลดลงปีละ 10% ไปจนถึงต่ำสุดที่ 50% (ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป)
- ให้ความคุ้มครองเหมือนประกันรถยนต์ชั้น 1 ทั่วไป แต่ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากปัจจัยภายนอก ที่ทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหาย
- ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่ไม่ได้มาจากผู้ผลิต (สามารถซื้อประกันความคุ้มครองเพิ่มเติมได้)
- เพิ่มพิกัดขั้นสูง เพื่อให้ยืดหยุ่นกับบริษัทประกันภัยในการรับประกัน (ทบทวนอัตราเบี้ยประกันใหม่ใน 2 ปี)
- หากมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถไฟฟ้าใหม่ สามารถขอเพิ่มความคุ้มครองได้ (มีค่าเบี้ยประกันเพิ่ม)
- เพิ่มการกำหนดพิกัดเบี้ยเป็น 5 ขั้น โดยใช้ฐานราคารถยนต์ไฟฟ้าเป็นเกณฑ์ (เริ่มตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จนถึงมากกว่า 5 ล้านบาท)
- ยกเลิกเกณฑ์กำหนดเบี้ยราคาตามอะไหล่ และค่าซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น (สำหรับรถยนต์ EV นำเข้าให้ใช้ฐานราคาบวกเพิ่มขึ้น 1 )
- เพิ่มข้อกำหนดในการบังคับให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ (สูงสุด 5 คน) แต่ยกเลิกการให้ส่วนลดเบี้ยประกันตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ในอัตรา 5 - 20%
- เปลี่ยนการคิดส่วนลดเบี้ยประกันหรือเพิ่มเบี้ยประกันในกรมธรรม์ปีต่อไป กรณีใช้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล เป็น 3 ขั้น ในอัตรา 20-40% ซึ่งการเพิ่มหรือลดเบี้ยประกันจะใช้ประวัติผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมากที่สุด มาเป็นเกณฑ์ในการคำนวณเบี้ยประกัน
- เพิ่มการกำหนดอัตราร่วมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เมื่อผู้ขับขี่ไม่อยู่ในรายชื่อที่แจ้งไว้ (ในกรณีที่นำรถไปใช้และเป็นฝ่ายผิดหรือประมาท แบ่งเป็น 6,000 บาทต่อครั้ง และ 2,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความเสียหายต่อรถและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และอีก 1,000 บาทในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี)
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของประกันภัยรถ EV
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของกรมธรรม์ประกันภัยรถ EV ฉบับแรกของไทย ที่ถูกนำมาบังคับใช้ในปีนี้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 เชื่อว่าหลายคนที่ใช้รถ EV อยู่อาจเกิดความสับสนว่ากรมธรรม์ประกันภัยรถ EV ที่ทำอยู่ต่างจากฉบับใหม่ตรงไหน? เราจึงสรุปเป็นตารางให้เข้าใจง่ายดังนี้
กรมธรรม์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน (ประเภท1) | กรมธรรม์ประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ (2567) |
ให้ความคุ้มครองทุกภัย (All Risk) | - คุ้มครองทุกภัย แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุภายนอก ที่ส่งผลต่อระบบปฏิบัติการ - ไม่คุ้มครองความเสียหายจากเครื่องชาร์จไฟฟ้าส่วนบุคคล ที่นำมาติดตั้งเอง ไม่ได้มาจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า |
รับประกันแบตเตอรี่ จ่ายตามจริง ไม่มีการกำหนดค่าเสื่อมสภาพ | - กำหนดค่าเสื่อมลดลงปีละ 10% - เปลี่ยนแบตเตอรี่มาใหม่ ขอเพิ่มความคุ้มครองได้ |
อัตราเบี้ยประกัน ใช้พิกัดเดียวกับรถยนต์ทั่วไป | - กำหนดพิกัดเบี้ยเป็น 5 ขั้น ใช้ฐานราคารถยนต์เป็นหลัก - เพิ่มพิกัดขั้นสูง ให้หยืดหยุ่นกับบริษัทประกันภัยในการรับประกัน |
การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ ให้เป็นทางเลือก | - บังคับให้ระบุชื่อผู้ขับขี่ 5 ชื่อ - เพิ่มอัตราการจ่ายค่าส่วนแรก หากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในรายชื่อ |
ส่วนลด/เพิ่มเบี้ยประกัน ใช้ประวัติในการขับขี่เป็นเกณฑ์ | ใช้ประวัติผู้ขับขี่ที่แย่ที่สุดเป็นเกณฑ์คำนวณ |
ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างระหว่างประกันภัยรถ EV ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันกับประกันภัยรถ EV ฉบับใหม่ที่ คปภ. บังคับใช้ ที่เรานำมาอัปเดตให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกคนได้ทำความเข้าใจ และเตรียมรับมือกับความคุ้มครองที่จะเปลี่ยนแปลงไป
สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือจะเป็นประกันรถไฟฟ้า ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว รวมถึงประกันรถจักรยานยนต์ และประกันบิ๊กไบค์ที่คุ้มครองสูงสุดทันที รวมถึงใครที่กำลังมองหาพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474