เผยเหตุผล! ทำไมต้องล้างรถหลังลุยฝน พร้อมวิธีดูแลรถที่คนรักรถต้องรู้?


ช่วงหน้าฝนแบบนี้ที่ฝนตกเกือบทุกวันแบบไม่เลือกเวลา ทำให้คนรักรถหลายๆ คนต้องกุมขมับ เพราะต้องเจอปัญหารถเลอะจากคราบน้ำ ฝุ่น วันไหนเจอฝนหนักอาจต้องขับลุยน้ำทำให้รถเปื้อนโคลน ฝากร่องรอยความสกปรกไม่น่ามองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะล้างรถทุกวันก็คงไม่ไหว! แต่หากปล่อยคราบเหล่านี้ไว้นานๆ อาจส่งผลเสียกับตัวรถทั้งภายในและภายนอกได้ มาดูเหตุผลว่าทำไมถึงต้องล้างรถหลังจากขับลุยฝนมา พร้อมวิธีดูแลรถให้กลับมาสะอาดเงางามอีกครั้ง
ทำไมต้องล้างรถทันทีหลังจากลุยฝน ลุยโคลนมา
1. ป้องกันคราบสกปรกฝังตัวรถ
หลังขับรถลุยฝน ลุยโคลน จะเห็นได้ว่ารถของเรามักจะเปรอะดิน เปลื้อนโคลนที่กระเด็นมาเกาะตามผิวรถหรือตามซอกมุมต่างๆ เกือบทั้งคัน แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือล้างรถทันที เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง คราบน้ำ คราบโคลนที่พร้อมใจกันเกาะบนรถอาจฝังแน่นจนทำความสะอาดยาก ยิ่งถ้าปล่อยไว้นานคราบเหล่านี้จะกัดกร่อนสีรถจนทำให้รถดูหมองได้
2. ป้องกันคราบจากเศษใบไม้
ไม่ใช่แค่คราบน้ำ คราบโคลนที่เป็นอันตรายกับรถเท่านั้น เศษใบไม้ ดอกไม้ที่ปลิวมาติดกับตัวรถเวลาฝนตกหรือหลังจากฝนหยุดตกไปแล้ว อาจกลายเป็นคราบแห้งและทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น เมื่อฝนหยุดตกจึงควรรีบล้างรถทันทีเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันไม่ให้คราบเหล่านี้มาสร้างปัญหาให้กับสีรถของเราภายหลัง
3. ลดการเกิดสนิม
การขับรถลุยฝน ลุยโคลนไม่เพียงทำให้เราต้องเจอกับสิ่งสกปรกจากผิวถนนที่ลอยมาเกาะติดตัวรถเท่านั้น แต่ยังต้องเจอความชื้นที่อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ ซึ่งบางครั้งอาจเลยเถิดไปถึงภายในเครื่องยนต์เกิดสนิมได้ การล้างรถทันทีและเช็ดให้แห้งจะช่วยลดความชื้นที่เป็นต้นเหตุให้รถเกิดสนิมได้นั่นเอง
4. ป้องกันสิ่งสกปรกและฝุ่นทำลายผิวรถ
การขับรถลุยฝน ลุยโคลนต้องเจอกับสิ่งสกปรกมากมายที่อยู่บนถนน ไม่เว้นแม้แต่น้ำเน่าที่ขังอยู่ตามหลุมบ่อต่างๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้เลยว่ามีอะไรปนเปื้อนอยู่หรือไม่ การล้างรถทันทีหลังจากลุยฝน ลุยโคลนมา จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยป้องกันสีผิวรถ ไม่ให้ดูซีดหมองได้ เพราะถ้าปล่อยคราบสกปรกเหล่านี้ไว้นานๆ จะทำให้เกาะติดผิวรถแน่นขึ้น และเป็นต้นเหตุให้สีรถดูหมองได้
สิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากขับรถลุยฝน ลุยโคลนมา
ขับรถลุยฝน ลุยโคลนมา เห็นรถเปื้อนก็อย่าเพิ่งใจร้อนรีบทำแบบนี้ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้รถพังไม่รู้ตัว จะมีสิ่งไหนบ้างที่ห้ามทำ ลองมาเช็กกันดู
1. ห้ามใช้ผ้าแห้งเช็ด
การใช้ผ้าแห้งเช็ดรถทันทีอาจสร้างปัญหาให้กับรถคันโปรดไม่น้อย เพราะผ้าที่ใช้อาจมีเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ หากนำไปเช็ดคราบน้ำ คราบโคลนที่เปื้อนบนรถทั้งที่ยังแห้งๆ จะทำให้เศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อยู่ในผ้าขูดไปกับผิวรถจนเกิดรอยขีดข่วนได้
2. ไม่จอดรถตากแดด
หลายคนอาจคิดว่าการจอดรถตากแดดหลังจากที่ลุยฝนมาเป็นเรื่องดี เพราะรถจะได้แห้งโดยไม่ต้องเสียเวลาเช็ด! แต่รู้หรือไม่ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะการจอดรถตากแดดนอกจากทำลายสีรถโดยตรงแล้ว ยังทำให้คราบน้ำฝน คราบโคลนที่เกาะมากับรถฝังแน่นมากกว่าเดิม ดังนั้นเมื่อขับรถลุยฝนมาแนะนำให้จอดในที่ร่ม และรีบล้างรถหรือทำความสะอาดจะดีที่สุด
วิธีล้างรถหลังลุยฝน ลุยโคลนมา
รู้ประโยชน์ของการล้างรถทันที และสิ่งที่ไม่ควรทำหลังจากขับรถลุยฝน ลุยโคลนกันมาอย่างหนักหน่วงแล้ว ก็มาถึงวิธีล้างรถที่ถูกวิธีที่ทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
1. ฉีดน้ำแรงดันสูงไล่คราบสกปรก
เริ่มจากการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ฉีดไล่คราบสกปรกตั้งแต่ด้านบนรถไล่ไปจนถึงช่วงล่าง โดยเฉพาะส่วนซุ้มบังโคลนซึ่งเป็นจุดที่คราบโคลน คราบฝุ่นสกปรกต่างๆ เกาะฝังตัวแน่น เพื่อให้คราบสกปรกต่างๆ หลุดออกได้ง่ายขึ้น ใครไม่มีสายฉีดน้ำแรงดันสูง ก็สามารถใช้สายยางปกติฉีดล้างคราบสกปรกได้เช่นกัน
2. ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำอุ่น
หลังฉีดน้ำไล่คราบสกปรกต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนลงน้ำยาล้างรถ เริ่มจากผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำอุ่นในอัตราส่วนที่พอเหมาะ หรือดูอัตราส่วนการผสมที่ข้างขวดน้ำยาล้างรถ (แต่ละยี่ห้อจะมีอัตราส่วนที่ต่างกัน) จากนั้นนำผ้าชุบน้ำยาที่ผสมไว้แล้วนำมาเช็ดเบาๆ โดยไล่จากด้านบนตัวรถลงไปด้านล่าง
ข้อควรระวัง : ข้อควรระวัง : และห้ามใช้น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกเด็ดขาด รวมถึงห้ามใช้น้ำร้อนมาผสม เพราะนอกจากมีสารกัดกร่อนที่อาจทำให้สีผิวรถดูหมองแล้ว ยังอาจทำให้แวกซ์เคลือบสีเสื่อมเร็วด้วย
3. ล้างรถจากด้านบนลงล่าง
เมื่อลงน้ำยาล้างรถเรียบร้อยแล้วให้ฉีดน้ำทำความสะอาดอีกรอบ โดยเริ่มจากส่วนบนของรถไล่มาที่ด้านข้างไปจนถึงช่วงล่าง เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดและช่วยให้คราบตะกอน คราบโคลนที่ฝังแน่นอยู่หลุดออกง่ายขึ้น จุดสำคัญคือไม่ควรล้างรถจากช่วงล่างก่อนเพราะน้ำอาจกระเด็นไปเกาะตัวรถจนเป็นคราบได้
4. เช็ดรถให้แห้ง
ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อล้างรถเสร็จแล้วควรเช็ดรถให้แห้งทันที โดยผ้าที่ใช้เช็ดควรเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์มาเช็ดทำความสะอาดตามขอบต่างๆ และบริเวณกระจกรถ เพื่อไม่ให้หลงเหลือคราบน้ำเกาะอยู่บนผิวรถ และป้องกันฝุ่นที่จะมาเกาะบนสีรถของเรา และไม่ควรใช้ฟองน้ำล้างรถมาเช็ดเพราะอาจมีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่และทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้นั่นเอง เพียงแค่นี้รถคันโปรดก็กลับมาสะอาดดังเดิมแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือแนะนำให้นำรถไปเคลือบผิวรถด้วยจะดีมาก เพื่อให้รถเงางามและเป็นการช่วยป้องกันคราบฝุ่น คราบสกปรกต่างๆ มาเกาะสีรถอีกด้วย
ใครจะไปคิดว่าแค่ขับรถฝ่าฝน หรือรถเปื้อนโคลนที่กระเด็นมาติดตัวรถจะทำร้ายรถได้ขนาดนี้ เมื่อไหร่ที่ต้องขับรถลุยฝนกลับถึงบ้านต้องล้างรถทันที เพราะไม่เพียงช่วยให้รถคันโปรดของเราสะอาด แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถด้วย นอกจากนี้อย่าลืมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยการทำประกันรถยนต์เพื่อเสริมความอุ่นในการเดินทางกันด้วย
ใตรที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่บริการรวดเร็ว เป็นธรรม และมีแผนประกันรถยนต์ให้เลือกตามความต้องการ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ที่พร้อมมอบความคุ้มครองสูงสุดแก่ผู้เอาประกัน เคลมไว จ่ายจริง ในราคาที่เอื้อมถึงได้ ถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดแผนประกันรถยนต์ต่างๆ ได้ที่ www.viriyah.com หรือ โทร. 0-2129-7474