ไขข้อสงสัย ปิดแอร์รถ เปิดกระจกตอนขับ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันจริงไหม?

ไขข้อสงสัย ปิดแอร์รถ เปิดกระจกตอนขับ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันจริงไหม?
ไขข้อสงสัย ปิดแอร์รถ เปิดกระจกตอนขับ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันจริงไหม?

 

      เชื่อว่าผู้ใช้รถหลายคนน่าจะเคยได้ยินเทคนิคที่ว่า “การปิดแอร์รถ และเปิดกระจกตอนขับ ช่วยประหยัดน้ำมันได้” หรือบางคนอาจเคยเจอกับเหตุการณ์น้ำมันใกล้หมด และทดลองใช้วิธีปิดแอร์รถและเปิดกระจกเพื่อลดความร้อน และเชื่อว่าเป็นการเซฟน้ำมันให้ไปถึงจุดหมายได้ แต่ในความเป็นจริงนั้นการปิดแอร์รถและเปิดกระจกจะช่วยประหยัดน้ำมันได้จริงหรือไม่ มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน

 

ปิดแอร์รถ เปิดกระจกตอนขับขี่ ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่?

การปิดแอร์รถ แล้วเปิดกระจกแทนตอนที่ขับขี่ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง เนื่องจากการเปิดแอร์ในรถเป็นการใช้พลังงานจากน้ำมันเหมือนกัน หากทำการปิดแอร์รถ ก็ช่วยประหยัดน้ำมันขึ้นนั่นเอง ซึ่งสามารถประหยัดน้ำมันได้ 10% เลยทีเดียว อีกทั้งยังทำให้เครื่องยนต์หน่วงน้อยลงและช่วยให้อัตราเร่งของรถดีขึ้นด้วย แต่ถ้าอยากให้รถของคุณประหยัดน้ำมันได้ผลจริง ควรขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เพื่อให้อากาศได้ไหลผ่านห้องโดยสาร หากขับรถเร็วเกินไป จะทำให้เกิดแรงต้าน เพราะอากาศไม่ไหลผ่านห้องโดยสาร ทำให้เกิดอุณหภูมิสูงและเครื่องยนต์ทำงานหนัก ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิม

ทั้งนี้การปิดแอร์รถและเปิดกระจกแทนตอนขับขี่ อาจเหมาะกับการขับขี่ในระยะทางที่สั้น และมีอากาศที่ไม่ร้อนมากจนเกินไป เพราะหากขับขี่ไปในระยะทางไกลกับสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป นอกจากจะไม่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันแล้ว ยังจะทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายและส่งผลเสียต่อร่างกายผู้ขับขี่อีกด้วย

 

วิธีขับรถประหยัดน้ำมัน ในยุคที่น้ำมันขึ้น

ในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ การเติมน้ำมันรถบ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่สร้างภาระเกินไป เราจึงมีวิธีขับรถประหยัดน้ำมัน มาฝาก โดยที่ไม่จำเป็นต้องปิดแอร์รถ และเปิดกระจกตอนขับขี่ถึงจะประหยัดน้ำมัน ดังนี้

1.การเช็กลมยางรถ

การรักษาและตรวจเช็กแรงดันลมยางรถ ก่อนที่จะขับขี่ เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย เพราะการรักษาแรงดันลมยางรถให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รถจะสามารถประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย ซึ่งลมยางที่เหมาะสมจะต้องมีค่า psi ไม่ต่ำกว่า 10 หากมีค่า psi ต่ำกว่า 10 จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันถึง 5% ทีเดียว

2.ไม่เร่งเครื่องยนต์บ่อยๆ

การเร่งความเร็วรถบ่อยๆ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น เพราะอัตราการประหยัดน้ำของรถจะลดลงถึง 15-30% ทางที่ดีควรแตะคันเร่ง เพื่อค่อยๆ เพิ่มความเร็วจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า หากเป็นการจอดรถนิ่งๆ จากสภาพการจราจรที่ติดขัด

3.ไม่เหยียบเบรกบ่อย

ในยุคน้ำมันแพงอย่างนี้การเหยียบเบรกบ่อยๆ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไม่น้อย เพราะการเบรกทุกครั้งความเร็วของรถจะลดลง และเมื่อทำการเหยียบคันเร่งเพื่อให้ได้ความเร็วจะส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ทางที่ดีควรเปลี่ยนจากการเหยียบเบรก เป็นการปล่อยคันเร่งเพื่อให้ความเร็วรถลดลง โดยการประเมินสถานการณ์บนท้องถนนด้านหน้า จากนั้นหากต้องการความเร็วเพิ่มขึ้น ให้ทำการแตะคันเร่งใหม่เบาๆ จะประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าการเหยียบเบรกบ่อยๆ นั่นเอง

4.บรรทุกของเท่าที่จำเป็น

การที่รถต้องบรรทุกน้ำหนักที่มากขึ้น จะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักตามด้วย เพราะเครื่องยนต์ต้องใช้พลังงานมากกว่าเดิมในการทำให้รถวิ่งด้วยความเร็วปกติ ดังนั้นการขนของที่เยอะมากเกินไป จะทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเดิม แนะนำว่าให้ขนของเท่าที่จำเป็นดีกว่า

5.วางแผนการเดินทางทุกครั้ง

การวางแผนก่อนการเดินทางทุกครั้ง จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีรถติด หรือถนนที่มีผิวขรุขระ เป็นหลุมบ่อได้ ที่สำคัญยังช่วยให้คุณไม่หลงทางเสียเวลาด้วย ทำให้คุณไปถึงยังจุดหมายได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำมันอีกด้วย

6.ตรวจเช็กสภาพรถอยู่ตลอด

การตรวจเช็กสภาพรถอยู่ตลอดจะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ เพราะหากละเลยในการตรวจเช็กสภาพรถ อาจทำให้ส่วนประกอบภายในรถยนต์ของเราทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพ ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้ถึง 10% ทีเดียว ดังนั้นการดูแลรักษาและตรวจสภาพรถอยู่ตลอด จะช่วยให้รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยังช่วยเซฟเงินจากการเติมน้ำมันอีกด้วย

ถึงเเม้จะรู้ว่าการปิดแอร์รถและเปิดกระจกรถตอนขับขี่ ช่วยประหยัดน้ำมันได้ แต่ทางที่ดีก็ควรตรวจเช็กน้ำมันรถอยู่เสมอ ก่อนออกเดินทาง เพื่อความอุ่นใจในการเดินทาง รวมถึงการขับขี่อย่างระมัดระวัง ไม่ใช่ความเร็วมากเกินไปหรือขนของหนักเกินไป ตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้แล้ว

รู้วิธีขับขี่ให้ประหยัดน้ำมันกันไปแล้ว ก็อย่าลืมเสริมเกราะป้องกันให้กับคุณและรถด้วยการทำประกันรถยนต์ด้วย

ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่มีคุณภาพ บริการรวดเร็วทันใจ เป็นธรรมอยู่ เราขอแนะนำประกันภัยรถยนต์ จากวิริยะประกันภัย หลากหลายประกันภัยที่สามารถคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.viriyah.com หรือ โทร.สอบถามได้ที่เบอร์ 0-2129-7474

อ่านบทความอื่นๆ