เบรกแตก.....! ประกันภัยคุ้มครองมากน้อยแค่ไหน!
ความเสียหายของอะไหล่รถยนต์หรือแม้แต่ตัวเครื่องยนต์เอง เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัยได้ง่าย เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น ในบางครั้งอาจต้องใช้เทคนิคทางช่างหรือผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อยุติว่า ความเสียหายเกิดขึ้นจาก”ความเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ”หรือ”อุบัติเหตุ”
ดังนั้นผู้เอาประกันภัยต้องมีความเข้าใจเป็นพื้นฐานก่อนว่า ความเสียหายของอะไหล่รถยนต์ตลอดไปถึงเครื่องยนต์นั้น เป็นความเสียหายที่เกิดจากสภาพการใช้งานโดยทั่วไป หรือ เป็นความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ
คู่มือตีความกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งถือเป็นประกาศนายทะเบียนมีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย ในหมวดความเสียหายต่อรถยนต์ ข้อ 7 การยกเว้นความเสียหายต่อเครื่องยนต์ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง ในข้อ 7.2
“การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสียหายหรือการหยุดเดินของเครื่องจักรกลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ”
อธิบายได้ว่าอะไรที่เกิดความเสียหายขึ้นมาและไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุหรือไม่ได้เกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอก ความเสียหายนี้จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย
แต่ถ้าหากเป็นความเสียหายของอะไหล่หรือตัวเครื่องยนต์ทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื่อง อาทิขับรถยนต์อยู่ดีๆเครื่องยนต์เสีย หรือเบรกเสียหรือแตก ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้ เกิดไปเฉี่ยวชนหรือพลิกคว่ำทำให้รถยนต์เสียหาย หรือทำให้ทรัพย์สินและชีวิต ร่างกายอนามัยของบุคคลอื่น
รถยนต์เบรกแตกเกิดจากอะไร?
เหตุการณ์รถเบรกแตกอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. น้ำมันเบรกหมด
หากทำการเบรกแล้วรู้สึกว่ามีอาการเบรกจมลึกกว่าปกติ หรือเบรกแล้วรถไม่ค่อยหยุด อาจเกิดจากสาเหตุน้ำมันเบรกหมดทำให้เบรกของเราไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหากยังใช้งานต่อเนื่องตอนที่น้ำมันเบรกหมด ยิ่งเสี่ยงทำให้รถเกิดอาการเบรกแตกมากขึ้นนั่นเอง
2. สายเบรกขาด
ถึงแม้สายเบรกขาดอาจดูไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำให้รถเบรกแตกเท่าไรนัก แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ จึงควรตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ และเช็กรถก่อนออกเดินทางทุกครั้งด้วยการดูว่ามีรอยน้ำมันรั่วใต้ท้องรถไหม รวมถึงลองเหยียบเบรกซ้ำๆ เพื่อเช็กว่าเบรกได้ปกติหรือไม่
3. น้ำมันเบรกรั่ว
ถ้าสังเกตเห็นน้ำหยดใต้ท้องรถและเป็นคราบน้ำมัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเกิดจากน้ำมันเบรกรั่ว ให้รีบนำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็ก หรือถ้าอยู่ใกล้อู่ก็ให้นำเข้าทันที เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้รถเกิดอาการเบรกแตก
4. การเหยียบเบรกซ้ำแรงๆ
ใครจะรู้ว่าการเหยียบเบรกซ้ำแรงๆ หลายครั้งมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้รถเบรกแตกได้เหมือนกัน เพราะการเหยียบเบรกซ้ำแรงๆ อาจทำให้ผ้าเบรกหมดเร็วกว่ากำหนด จนทำให้รถเบรกไม่อยู่และเบรกแตกในที่สุด หรือต่อให้ผ้าเบรกไม่หมดก็มีโอกาสทำให้ผ้าเบรกเกิดการไหม้จนเบรกแตกได้เช่นกัน
วิธีรับมือเมื่อเบรกแตก ต้องทำอย่างไร
-
ตั้งสติให้ดี เพราะการมีสติจะช่วยให้สามารถบังคับรถ ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหน้าได้อย่างทันท่วงทีและสามารถแก้ไขปัญหาล่วงหน้าได้ แต่ถ้าขาดสติอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้
-
ถอนคันเร่ง เพื่อลดความเร็วและเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ในกรณีที่ขับขี่อยู่แล้วรถเกิดเบรกแตก ควรถอนคันเร่งเพื่อลดความเร็วพร้อมกับประคองพวงมาลัย และนำระบบเอนจิ้นเบรก (Engine Brake) มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ทันทีทั้งรถธรรมดาและรถเกียร์ออโต้ เพราะอาจทำให้ระบบเกียร์พังได้
-
ชิดซ้ายให้เร็วที่สุด หลังจากถอนคันเร่งเพื่อลดความเร็วลงมาจนควบคุมรถได้แล้ว ให้รีบนำรถเข้าเลนซ้ายสุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหลบไม่ให้กีดขวางการจราจร และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
-
ดึงเบรกมือช่วย ถ้ารถยังมีความเร็วอยู่ การดึงเบรกมือจะช่วยให้ชะลอความเร็วของรถลงได้ในกรณีที่เกิดจากอาการเบรกแตก เพราะเบรกมือจะช่วยหน่วงความเร็วของล้อรถ แต่ไม่แนะนำให้ดึงเบรกมือแบบรวดเดียว ให้ดึงเบรกมือช้าๆ จนสุดจะช่วยชะลอความเร็วของรถได้ดีกว่า
ความเสียหายของตัวรถยนต์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะมากจะน้อยขนาดไหน บริษัทประกันภัยผู้รับประกันภัยไว้จะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด(เฉพาะรถยนต์ที่ทำประกันภัยประเภท 1 เท่านั้น) ยกเว้น ชิ้นส่วนต้นเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ อาทิเครื่องยนต์ที่เกิดเสียขึ้นมา หรือเบรกแตก ฯลฯ ส่วนทรัพย์สินหรือชีวิต ร่างกาย อนามัย บุคคลภายนอก จะได้รับความคุ้มครองอยู่แล้วตามเงื่อนไข
ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์หรือต้องการทำประกันรถยนต์ เราขอแนะนำประกันรถยนต์จากวิริยะประกันภัย ทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญในการคุ้มครองรถยนต์ของคุณได้ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ที่ดูแลครบ จบทุกความต้องการหรือ ประกันรถยนต์ 2+ ซื้อง่ายคุ้มครองเร็ว หรือประกันรถยนต์ 3+ ประกันคุ้มจบในที่เดียว และใครที่กำลังมองหาการต่อพรบรถยนต์ที่คุ้มค่า ที่วิริยะประกันภัยเรามีครบจบที่เดียวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.viriyah.com หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2129-7474